เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยได้ยินชื่อเสียงของผลิตภัณฑ์ที่จะมารีวิวในวันนี้มาก่อนเป็นอย่างดี เพราะว่าที่เมืองนอกนั้นขายดิบขายดี และล่าสุดได้รับรางวัลเป็น Best Anti-Aging Treatment ในหมวด Mass Market จาก CEW Beauty Insiders’ Awards ของปี 2012 อีกด้วย แน่นอนมันคือ L’Oreal :Youth Code Pre-Essence นั่นเอง…
ส่วนตัวปูเป้เองได้เคยลองใช้มานานเป็นปีแล้ว เพราะสั่งจากอเมริกามาลองใช้ และเมื่อปลายปีก่อนที่ไปมาเลเซีย ก็มี Youth Code วางขาย (แพคเกจแบบนี้แหล่ะ) ก็สอยมาลองต่อ สำหรับเมืองไทยจะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 1 มิถุนายน นี้ โดยจะวางจำหน่ายในเคาน์เตอร์ L’Oreal Paris ตามแผนกเครื่องสำอางในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ (ส่วนอนาคตจะวางจำหน่ายที่อื่นด้วยรึเปล่า ก็ต้องรอดูกันอีกที)
ส่วนผสมหลักของผลิตภัณฑ์มีทั้งหมด 4 ชนิด โดยเริ่มจาก Bifida Ferment Lysate หรือ CLR : REPAIR COMPLEX CLR™ PF ซึ่งเป็นส่วนผสมที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีใน Estée Lauder : Advanced Night Repair Synchronized Recovery Complex ผู้ผลิตสารชนิดนี้ไม่เคยเปิดเผยเลยว่าสารที่แท้จริงที่ได้จากการหมักบ่มแบคทีเรีย Bifidus นั้นเป็นสารชนิดใด แต่เขาเคลมว่าสารตัวนี้ช่วยในเรื่องของการซ่อมแซม DNA เสริมภูมิคุ้มกันของผิวและลดความเสียหายจากรังสี UV
ส่วนผสมอีกตัวที่น่าสนใจคือ Salicyloyl Phytosphingosine หรือ Phytosphingosine SLC โดยบริษัท Evonik-Goldschmidt ซึ่งตัวนี้ปูเป้ได้ไปนั่งฟังข้อมูลในงานสัมนา In-Cosmetic เมื่อปี 2011 ที่ผ่านมา ส่วนผสมชนิดนี้ใช้ในความเข้มข้นแนะนำ 0.2% โดยเป็นการเอา Phytosphingosine มาเกี่ยวเข้ากับ Salicylic Acid เพื่อช่วยเสริมการทำงาน
ส่วนผสมอีกตัวคือเปปไทด์ที่ตอนแรกคิดว่าเป็น Matrixyl 3000 (Palmitoyl Oligopeptide, Palmitoyl Tetrapeptide-7) ซึ่งตัวเปปไทด์นั้นเคลมเรื่องของการลดการอักเสบและลดเลือนริ้วรอยเอาไว้ แต่พอเช็คดูอีกทีมันอาจจเป็น Haloxyl® ที่มักจะถูกใส่มาในผลิตภัณฑ์รอบดวงตา เพราะเขาเคลมในเรื่องของการลดรอยคล้ำใต้ก็ได้อีกเหมือนกัน เพราะมีส่วนผสมของ N-Hydroxysuccinimide และ Chrysin มาด้วย… ตรงนี้ไม่ขอฟันธงว่าเป็นตัวไหนกันแน่ แต่หลัก ๆ แล้วก็เป็น Anti-Aging Peptide ละกัน
ตัวสุดท้ายคือ Sodium Hyaluronate ที่เป็นตัวให้ความชุ่มชื้นกับผิว โดยสามารถอุ้มความชื้นได้มากกว่าน้ำหนักตัวถึง 1,000 เท่า
Ingredients : Aqua/Water, Bifida Ferment Lysate, Glycerin, Alcohol Denat., Dimethicone, Hydroxyethylpiperazine Ethane Sulfonic Acid, PEG-20 Methyl Glucose Sesquistearate, Sodium Hyaluronate, Salicyloyl Phytosphingosine, Palmitoyl Oligopeptide, Palmitoyl Tetrapeptide-7, Adenosine, Ammonium Polyacryldimethyltauramide, Disodium EDTA, Caprylyl Glycol, Citric Acid, Xanthan Gum, N-Hydroxysuccinimide, Chrysin, Octyldodecanol, Sodium Benzoate, Phenoxyethanol, Limonene, Fragrance.
ในแง่ของการเป็น Pre-Essence นั้นถือว่าทำออกมาได้ดี เพราะไม่ไปรบกวนหรือเพิ่มความเหนอะหนะผิวเมื่อใช้คู่กับเซรั่มบำรุงผิวอื่น ๆ ส่วนคุณสมบัติที่คาดหวังได้ในระยะยาวดูจะเป็นการชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย รวมถึงผิวที่มีความชุ่มชื้นและเรียบเนียนขึ้นจากการที่ชั้น Skin Barrier มีความสมบูรณ์ขึ้น
สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั๊ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้งครับ
ข้อดี
– นำเสนอส่วนผสมในการบำรุงที่แปลกใหม่ให้กับ Mass Market
– เซรั่มเนื้อบางเบา ใช้ได้กับทุกสภาพผิวที่ต้องการชะลอริ้วรอยก่อนวัย
– Salicyloyl Phytosphingosine ช่วยเสริม Skin Barrier ให้ผิวแข็งแรงขึ้น
ข้อเสีย
– มีส่วนผสมของน้ำหอม
– ข้อมูลเรื่องประโยชน์ของส่วนผสมหลักนั้นมาจากผู้ผลิตสาร ยังไม่มีการทดสอบจากหน่วยงานอิสระอื่น ๆ
***Sponsored Item***
– L’Oreal :Youth Code Pre-Essence