ในเดือนสิงหาคมนี้ IPSA ได้ออกผลิตภัณฑ์มอยซ์เจอไรเซอร์ตัวใหม่ออกมา เพื่อตอบสนองความต้องการในการเติมความชุ่มชื้นสำหรับผู้ที่มีปัญหามีผิวมัน แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าผิวมีความแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น ความเปล่งปลั่งที่ข้างใน เรามาดูกันดีกว่าว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้จะตอบโจทย์นี้ได้ดีแค่ไหน?

ก่อนอื่นขอท้าวความถึงแบรนด์ IPSA กันคร่าวๆ ก่อนเนอะ… แบรนด์นี้กำเนิดขึ้นในปี 1987 โดยเน้นคอนเซปต์ “การดูแลผิวเฉพาะบุคคล” เพราะว่าเราทุกคนล้วนมีความแตกต่าง Unique ไม่เหมือนใคร จึงมีการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองสภาพผิวแบบต่าง ๆ ซึ่งจะต้องใช้ IPSA Crew หรือ BA ประจำเคาน์เตอร์ ในการตรวจวิเคราะห์ผิวอย่างละเอียดด้วยเครื่อง IPSALYZER เพื่อทราบถึงสภาพผิวและปัญหาที่แท้จริง เพื่อให้ Recipe หรือสูตรความงามและผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับแต่ละคนนั่นเอง

IPSA เน้นความงามแบบผิวเปลือยเปล่า ซึ่งรูปนางแบบที่ทางแบรนด์ใช้ในการสื่อสารผ่านทางโฆษณา และภาพในเคาน์เตอร์อย่างที่เห็นในรูปด้านบนนี้ เธอเป็นพนักงานประจำเคาน์เตอร์ IPSA ชาวญี่ปุ่น และไม่ได้มีการใช้ Makeup ใด ๆ บนผิวเลย เพื่อเป็นการสื่อสารว่า คุณสามารถมีผิวที่เปลือยเปล่าที่สวยงามแบบนี้ได้ ถ้าคุณใช้ IPSA (อะไรประมาณนี้)

โดยส่วนตัวแล้ว ปูเป้มองว่าIPSA จะเหมาะกับที่แสวงหาความเรียบง่ายในการดูแลผิว ขั้นตอนไม่ซับซ้อน ให้เนื้อสัมผัสและความรู้สึกหลังการใช้ที่ดีเยี่ยม โดยเฉพาะกลุ่มมอยซ์เจอไรเซอร์ และกันแดดที่ขึ้นชื่อของเขา (แต่เรื่องราคาก็บอกตามตรงว่าไม่เบาเท่าไหร่นะจ๊ะ)

มาเข้าประเด็นในเรื่องของ “มอยซ์เจอไรเซอร์สำหรับผิวมันแต่ขาดความชุ่มชื้น” กันต่ออีกหน่อยนะ แน่นอนว่าประเทศไทยร้อน (มาก ๆ ๆ ๆ ๆ) และไม่ใช่ความร้อนธรรมดา มันมากับ “ความชื้น” และ “อบอ้าว” อีกด้วย ฟังดูแล้วเหมือนคนที่อาศัยอยู่ในสภาพอากาศแบบนี้ดูไม่น่าจะมีปัญหาการ “ขาดความชุ่มชื้น” กันได้เลยเนอะ… ผิวแห้งขาดความชุ่มชื้นมันก็ต้องมากับประเทศเขตหนาวสิ!!!

แต่พอดีไปอ่านเจอข้อมูลใน Cosmetics & Toiletries ซึ่งมันน่าสนใจมาก และเราต้องเข้าใจเสียใหม่ว่า อากาศร้อน ชื้น ทำให้ผิวแห้งกร้านได้เหมือนกัน ซึ่งมีข้อมูลบอกว่า

– อุณหภูมิของผิวที่สูงขึ้น 1 องศา C การเพิ่มขึ้นของการหลั่ง Sebum ก็จะเพิ่มขึ้น 10%

– คนที่อาศัยอยู่ในแถบที่มีอากาศแห้ง จะมีปราการผิวที่แข็งแรงกว่า และมีโอกาสที่จะเกิดอาการผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้นได้น้อยกว่าผู้ที่อยู่ในแถบที่อากาศมีความชื้นสูง นอกจากนี้การอยู่ในสภาพที่มีความชื้นสูง จะทำให้การซ่อมแซมปราการผิวทำได้ช้าลง

ดังนั้นการที่เราอยู่ในประเทศไทยที่มีอากาศที่ร้อน ทำให้อุณหภูมิผิวสูง การหลั่งน้ำมันก็เยอะ แต่ในขณะเดียวกันก็ทั้งชื้นและอบอ้าว ผลก็คือเราจะมีผิวที่มันเยิ้มได้ง่าย แต่ในขณะเดียวกันก็มีโอกาสที่ผิวจะเสียความชุ่มชื้นได้มากอีกเช่นกัน ยังไม่นับรวมว่าคนไทยชอบใช้ Cleanser ทำความสะอาดผิวหน้าแบบรุนแรงจนผิวฝืดเอี๊ยด ซึ่งยิ่งทำให้ผิวยิ่งขาดความชุ่มชื้นมากขึ้นอีกนะ

ดังนั้นการมีผิวที่แห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น ในขณะที่ผิวหน้าก็มันเยิ้มนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะจากการพบปะ ตอบคำถาม ร่วม workshop ตรวจสภาพผิวมามาก ทำให้เห็นเลยว่าผู้ที่มีผิวมันแต่แห้งกร้านขาดความชุ่มชื้นนั้น มีเยอะมากทีเดียว โดยมีสาเหตุจากสภาพอากาศที่ร้อน ชื้น และมีการดูแลผิวที่ผิดวิธีซ้ำเติมปัญหาให้หนักข้อขึ้นไปอีก

ทีนี้ปัญหาที่หลาย ๆ คนพบเจอ และไม่อยากใช้มอยซ์เจอไรเซอร์กันก็เพราะว่า “มันเยิ้ม และ “เหนอะหนะ” เพราะในความเข้าใจของคนส่วนหนึ่ง คำว่ามอยซ์เจอไรเซอร์ต้องเป็นพวกเนื้อครีม และถ้าอยากได้ความชุ่มขื้นมาก ๆ ก็ต้องใช้เนื้อที่ข้นมาก ๆ ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่ความเข้าใจที่ถูกเสียทีเดียว เพราะเนื้อที่หนักข้นนั้นหมายถึงการมีปริมาณน้ำมันหรือสารเคลือบผิวที่เยอะ เพื่อช่วยทดแทนน้ำมันที่หายไปและลดการสูญเสียความชุ่มชื้น ซึ่งคนที่มีผิวมันนั้นมีน้ำมันเยอะอยู่แล้ว ไม่ต้องการเคลือบผิว แต่ต้องการส่วนผสมที่ช่วยเติมและโอบอุ้มน้ำเอาไว้ในผิว ซึ่งไม่จำเป็นต้องอยู่ในเนื้อครีมหนักข้นเหล่านี้ได้

ผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้นแบบ “เนื้อเจล” นั้นมีมานานแล้ว แม้จะดูมีความบางเบากว่า แต่ที่ผ่านมาก็เจอปัญหาเรื่องความ “เหนียวหนึบ” อยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงที่ผลิตภัณฑ์ยังไม่แห้งสนิท หรือเจอความชื้น ดังนั้น IPSA จึงได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ IPSA : The Time Reset R Aqua Clear Gel (35g. / 2,150 THB) นำเสนอการให้ความชุ่มชื้นในรูปแบบ “เจล” ที่มีความพิเศษตรงที่เนื้อเจลนี้ “ไม่เหนอะ” “ไม่เหนียวหนึบ” และพร้อมที่จะ “หลอมรวม” เป็นหนึ่งเดียวกับผิว

ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ถูกทำขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ที่กำหนดขึ้นมาเท่านั้น นั่นก็คือการให้เนื้อสัมผัสของเจลที่ยอดเยี่ยม ไม่เหนอะหนะ ด้วย PEG-240/HDI Copolymer Bis-Decyltetradeceth-20 Ether ซึ่งเป็นสารก่อเจล และ Stabilizer ที่ให้ความใส ความยืดหยุ่นสูง สามารถคืนรูปได้ และไม่เหนอะหนะ และการให้ความชุ่มชื้นด้วยส่วนผสมของ Glycerin + Xylitol + Sodium Hyaluronate + Panthenyl Ethyl Ether + Trehalose

ตัวที่น่าสนใจคือ Trehalose เป็นสารกลุ่มน้ำตาลที่มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำที่น่าทึ่ง พืชหลายชนิดมี Trehalose อยู่ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือสาหร่ายวากะเมะ (ที่เราสั่งเวลาไปกิน MK นั่นแหล่ะ) สาหร่ายตัวนี้จะถูกนำเข้ามาในรูปแบบแห้งกรอบกรัง แต่ทันทีที่โดนน้ำ มันจะโอบอุ้มความชื้นและคืนรูปราวกับเป็นสาหร่ายสดพึ่งตักจากทะเลเลยล่ะ ในอดีต Trehalose เคยเป็นส่วนผสมที่มีราคาแพงเพราะความซับซ้อนในการทำ แต่เมื่อบริษัท Hayashibara ของญี่ปุ่นคุ้นพบวิธีการสกัด Trehalose ด้วยต้นทุนที่ถูกลง ส่วนผสมเหล่านี้จึงถูกใช้แพร่หลายมากขึ้นในเครื่องสำอาง

สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของ IPSA : The Time Reset R Aqua Clear Gel ดูจะเป็นเนื้อสัมผัสของเนื้อเจลที่ผู้ใช้จะสัมผัสได้ว่าเนื้อเจลมีความแน่นมาก แต่ในขณะเดียวกันก็เกลี่ยให้กลืนไปกับผิวได้อย่างง่ายดาย ให้สัมผัสที่เย็นผิวเพื่อลดอุณภูมิของผิวได้ในขณะที่ใช้ ไม่เหนอะ ไม่มัน ไม่หนึบเหนียวเหมือนกับผลิตภัณฑ์เนื้อเจลบางตัวที่เคยลองมา อ้อ… ที่เราประหลาดใจมากคือเจลกระปุกนี้ไม่มีส่วนผสมของ Alcohol ด้วยล่ะ ผิดวิสัยของ Japanese Skincare มากมาย (ไม่มีสีและน้ำหอมด้วย)

ในแง่ของการให้ความชุ่มชื้นนั้น ปูเป้ทดสอบด้วยการทา IPSA : The Time Reset R Aqua Clear Gel หลังจากที่ทำ Lotion Mask และลง Serum แล้ว เพื่อดูประสิทธิภาพในการโอบอุ้มความชุ่มชื้นเอาไว้ โดยจะทาเจลลงบนแก้มซ้าย ส่วนแก้มขวาไม่ทาเจล และวัดความชุ่มชื้นของผิวเพื่อเปรียบเทียบ

จะเห็นว่าผิวหลังทำ Lotion Mask และลง Serum จะมีความชุ่มชื้นอยู่มาก แต่หลังจากผ่านไป 5 นาที ข้างที่ไม่ได้ทา เจลจะมีระดับความชุ่มชื้นที่ตกลงไปมาก ในขณะข้างที่ทาเจลนั้นค่อยตกลงอย่างช้า ๆ เมื่อเวลาผ่านไป 8 ชั่วโมงในห้องแอร์เย็นเจี๊ยบ ผลออกมาพบว่าข้างที่ทาเจลยังคงเก็บความชุ่มชื้นได้มากกว่าข้างที่ไม่ได้ทาเจล ดังนั้นผู้ที่มีผิวมันแต่ขาดความชุ่มชื้น เมื่อทำ Lotion Mask ด้วยผลิตภัณฑ์โลชั่นน้ำเติมความชุ่มชื้นแล้ว การทาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเคลือบผิวจะช่วงคงความชุ่มชื้นไว้ได้นานกว่า

Ingredients : Water, Glycerin, Butylene Glycol, Xylitol, Dipropylene Glycol, Dimethicone, PEG-240/HDI Copolymer Bis-Decyltetradeceth-20 Ether, Phenoxyethanol, Carbomer, Polymethylsilsesquioxane, Bis-Butyldimethicone Polyglyceryl-3, PEG/PPG-14/7 Dimethyl Ether, Potassium Hydroxide, Disodium EDTA, Xanthan Gum, Sodium Hyaluronate, Panthenyl Ethyl Ether, Trehalose, BHT, Polyquaternium-51, Soluble Collagen.

โดยสรุปแล้ว IPSA : The Time Reset R Aqua Clear Gel สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มอบสรรพคุณได้ตามคำที่โฆษณาเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการมอบความชุ่มชื้นและให้สัมผัสกับผิวที่ยอดเยี่ยม ไม่เหนียว เหนอะหนะ มีความอ่อนโยนกับผิวแม้กับผิว Sensitive แต่คุณสมบัติเหล่านี้มาพร้อมกับค่าตัวที่ไม่เบาทีเดียว…

สำหรับใครที่สนใจผลิตภัณฑ์หรือมีคำถามอื่น ๆ จะลองแวะเข้าไปดูที่ Facebook ของ IPSA Thailand ก็ได้จ้า

สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง

ข้อดี

– ปราศจากสี น้ำหอม แอลกอฮอล์ชนิดแห้งไว
– อ่อนโยน ใช้กับผิว Sensitive ได้
– ให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ดี
– ให้เนื้อสัมผัสที่ดีมาก ไม่เนอะ ไม่เหนียวหนึบ

ข้อเสีย

– ราคาค่อนข้างสูง เมื่อคิดว่านี่เป็นผลิตภัณฑ์ที่มอบคุณสมบัติเรื่องความชุ่มชื้นแต่เพียงอย่างเดียว

***Sponsored Item***

– IPSA : The Time Reset R Aqua Clear Gel