ผลิตภัณฑ์ที่จะนำมารีวิวในวันนี้คงไม่คุ้นหูคุ้นตากันเพราะว่าเป็นแบรนด์ใหม่นั่นเอง พอดีว่าพี่ที่รู้จักกันเขาส่งมาให้ลองและบอกว่าตั้งใจทำเต็มที่ ชอบตรงไหนและส่วนไหนควรปรับปรุงคอมเมนต์ได้เต็มที่!!! นับถือในความมั่นใจ ใจกล้า และใจกว้าง วันนี้เลยขอเอามารีวิวแบบละเอียดให้ชมกันจ้า

แบรนด์ใหม่นี้ชื่อว่า IndiGlow ซึ่งมองความกระจ่าง โกลว์ เป็นความสวยที่ชวนให้เหลียวมอง โดยผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกที่เปิดตัวคือ IndiGlow : Seductive White Rejuvenating Moisturizer SPF30 PA++++ ออกแบบมาด้วยคอนเซปต์การเป็น All-In-One Skincare สำหรับตอนกลางวันสำหรับผู้ที่เร่งรีบแต่ก็ไม่อยากละเลยขั้นตอนของการดูแลผิว จึงเป็นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่รวมคุณสมบัติในการเป็นครีมบำรุงผิว ครีมกันแดด สารบำรุงผิว และคุณสมบัติกึ่งเมพอัพในการปรับผิวให้ดูกระจ่างขึ้นในขั้นตอนเดียวนี่เอง

Product’s Formula

ในแง่ของส่วนประกอบของ IndiGlow : Seductive White Rejuvenating Moisturizer SPF30 PA++++ (50ml / 1,290 Baht) นั้นผลิตภัณฑ์ตัวนี้ใช้สารกันแดดเป็น Titanium Dioxide ในการช่วยกระเจิงและสท้อนรังสียูวี คู่กับสารดูดซับรังสีอย่าง Ethylhexyl Methoxycinnamate (Octinoxate) กับ Butyl Methoxydibenzoylmethene (Avobenzone) และ Benzophenone-3 (Oxybenzone) ซึ่งโดยปกติแล้วสองตัวแรกจะมีปัญหาเรื่องความเสถียร แต่ทางแบรนด์เลือกใช้เป็น SunCat DE ซึ่งนำส่วนผสมเหล่านี้มา Encapsulation เพื่อแยกสารกันแดดที่มีปัญหาออกจากกันจึงเสริมความเสถียรได้

Avobenzone เป็นสารดูดซับรังสี UVA ที่มีประสิทธิภาพสูงแต่ความเสถียรต่ำ มีความพยายามในการเสริมความเถียรกันหลายวิธี ซึ่งส่วนใหญ่จะเลือกใช้การผสมกับสารกันแดดที่ช่วยเสริมความเสถียรกันได้ดี การ  Encapsulation นั้นข้อมูลจากนิตยสาร C&T สรุปไว้ว่ายังมีปัญหาเชิงเทคนิคที่ต้องแก้ไขอยู่พอสมควร ส่วนตัวมองว่าเบลนของสารกันแดด SunCat DE ตัวนี้อาจจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะของผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายในอเมริกาหรือหวังว่าจะไปจำหน่ายในอเมริกา เนื่องจากทางฟากนั้นทางกฏหมายเรื่องสารกันแดดยังล้าหลังและไม่สามารถใช้สารกันแดดประสิทธิภาพสูงกว่าอย่างตระกูล  Tinosorb ที่ไม่มีปัญหาเรื่องความเสถียรตั้งแต่แรก และเป็นตัวเสริมความเสียรให้สารกันแดดตัวอื่นๆ  ได้ด้วย ซึ่งเป็นที่นิยมใช้กันมากในเอเชีย หรือในยุโรป

(Source : In Light of Exposure: Understanding Avobenzone Part I, CharacterizationIn Light of Exposure: Understanding Avobenzone Part II, Application)

ส่วนผสมที่เราว่าน่าสนใจจริง ๆ ก็คือสารแคโรทีนอยด์ที่ปราศจากสี หรือ IBR-TCLC ซึ่งเป็นสารสกัดเอาสาร Phytoene และ Phytofluene จากมะเขือเทศ Solanum Lycopersicum Fruit Extract โดยละลายมาคู่กับ Squalane ซึ่งเป็นน้ำมันบำรุงผิวที่สกัดได้จากมะกอก และน้ำมันสกัดจากงา Simmondsia Chinensis Seed Oil โดยผู้ผลิตนำเสนอข้อมูลว่าสารตัวนี้มีประโยชน์หลากหลาย ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ที่น่าสนใจคือสารทั้งสองตัวนี้ดูดซับรังสี UV ได้ ช่วยเสริมความเสถียรของสารกันแดด และช่วยบูสต์ค่า SPF ในผลิตภัณฑ์ และยังเป็นไวท์เทนนิ่งได้ด้วย

(Source : Lightening, Boosting and Protecting with Colorless Carotenoids)

ผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีส่วนผสม Guaiazulene ซึ่งเป็นสารสีฟ้าที่เกิดขึ้นเองได้ตามธรรมชาติหรือจะมาจากการสังเคราะห์ก็ได้ ทางแบรนด์เคลมว่าเขาสกัดมาจากเห็ด โดยสารสีฟ้านี้แรกเริ่มสามารถสกัดมาได้จากดอกบลูคาโมไมล์ และมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ มีข้อมูลบ่งชี้ว่า Guaiazulene ถูกนำมาใช้เพื่อการเสริมการเยียวยาบาดแผลมานานแล้ว ข้อจำกัดคือ Guaiazulene นั้นไม่ค่อยเสถียรและอาจมีปัญหาเมื่อเจอรังสี UV ซึ่งก็มีข้อมูลที่บ่งชี้ว่ามีการใช้ Cyclodextrin ในการเสริมความเสถียรได้ และสารกลุ่ม Cyclodextrin ยังถูกนำมาใช้เพื่อเป็นระบบนำพาได้อีกด้วย

เราจะไม่ค่อยเห็นส่วนผสมตัวนี้กันเท่าไหร่เพราะว่ามันมีราคาที่สูงพอสมควรเลยล่ะ ผลิตภัณฑ์ทั่วไปที่ต้องการให้สีฟ้าเพียงเพื่อผลทางเมคอัพมักจะเลือกใช้พิกเมนต์อื่น ๆ ที่มีราคาถูกกว่า แต่ Guaiazulene ไม่ได้ให้แค่สีแต่ยังช่วยบำรุงผิวด้วย

(Source : Guaiazulene: A new treatment option for recalcitrant diaper dermatitis in NICU patients)

Naringin เป็นส่วนผสมที่เราไม่เคยเห็นใช้ในเครื่องสำอางที่ผ่านตาเราเท่าไหร่ เป็นฟลาโวนอยจากพืชตระกูลซิตรัสโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกรพฟรุต ส้มโอ Niringin มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระและช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่มาจากรังสี  UVB ได้ ซึ่งก็เหมาะกับผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ซึ่งก็เหมาะกับการใส่มาในผลิตภัณฑ์ที่ผสมสารป้องกันแสงแดดและเพื่อใช้ในเวลากลางวัน  ปูเป้ทำรีวิวส่วนผสมสกินแคร์มา 10 ปีก็พึ่งเคยเห็นนี่แหล่ะ ปกติเขาจะใช้พวกสารกลุ่ม Hesperidin หรือไม่ก็เป็น Citrus Peel Extract ที่รวมฟลาโวนอยด์หลายตัวมากกว่า ไม่ค่อยเจอตัวนี้แยกมาใช้เดี่ยว ๆ

จากการสอบถามเพิ่มเติมปูเป้ถึงพึ่งได้ทราบว่าเจ้า Niringin นี้มีเรื่องราวที่น่าประทับใจมาก เพราะว่าส่วนผสมตัวนี้ทางแบรนด์พยายามสกัดขึ้นมาใช้เอง โดยเริ่มต้นจากปัญหาน้ำท่วมที่ส่งผลกระทบกับชาวสวนส้มโอพันธุ์ทับทิมสยามในจังหวัดนครศรีธรรมราช จึงมีการเข้าไปช่วยซื้อและพูดคุยกันถึงการวิจัยส้มโอสายพันธุ์นี้ซึ่งเป็นพืช GI ของจังหวัด และนำวัตถุดิบไปให้ซัพพลายเออร์ที่ประเทศเกาหลีสกัดเอาสารฟลาโวนอยด์ออกมาเพื่อใช้ในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จนได้มาอยู่ในผลิตภัณฑ์ตัวนี้นี่เอง

(Source : Bioactive Flavonoids, Antioxidant Behaviour, and Cytoprotective Effects of Dried Grapefruit Peels (Citrus paradisi Macf.)Melanin Hyperpigmentation Inhibitors from Natural ResourcesNaringin protects ultraviolet B-induced skin damage by regulating p38 MAPK signal pathway.)

ส่วนผสมของสารบำรุงอื่น ๆ ก็จะเป็น Niacinamide หรือ Vitamin B3 ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ดีและให้ผลครอบจักรวาลตั้งแต่การเสริมความแข็งแรงของผิว เสริมการเป็นไวท์เทนนิ่ง และอีกมากมาย มี Dipotassium Glycyrrhizate ช่วยต้านการระคายเคือง กับ Hydrolyzed Sodium Hyaluronate และ Sodium Hyaluronate ที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื้น ในสูตรมีการใส่ส่วนผสมของบัตเตอร์และน้ำมันสกัดจากพืชที่น่าจะใช้เพื่อเติมกรดไขมันและลิพิดที่ดีกับผิว

Ingredients : Water, Cyclopentasiloxane, Dimethicone/Vinyl Dimethicone Crosspolymer, PEG/PPG-18/18 Dimethicone, Glycerin, Niacinamide, Titanium Dioxide, PEG/PPG-19/19 Dimethicone, Dimethicone, Polymethylsilsesquioxane, Silica, HDI/Trimethylol Hexyllactone Crosspolymer, Ethylhexyl Methoxycinnamate, Butyl Methoxydibenzoylmethene, Benzophenone-3, Squalane, Propanediol, Polysilicone-11, Butyrospermum Parkii (Shea) Butter, Solanum Lycopersicum Fruit Extract, Sodium Polyacrylate, Talc, Sodium Chloride, Glyceryl Polyacrylate, Phenoxyethanol, Chlorphenesin, Dipotassium Glycyrrhizate, Hydrolyzed Sodium Hyaluronate, Sodium Hyaluronate, Caffeine, Naringin, Cyclodextrin, Hydroxypropyl Cyclodextrin, Echium Plantagineum Seed Oil, Macadamia Integrifolia Seed Oil, Copernicia Cerifera Wax, Pentylene Glycol, Guaiazulene, Aluminum Hydroxide, Butylelne Glycol, Decyl Glucoside,  Simmondsia Chinensis Seed Oil, C13-14 Isoparaffin, Methicone, Polysorbate 80, Triethoxycaprylylsilane, Phospholipids, Laureth-7, Ethylhexylglycerin, PVM/MA Copolymer. 

Usage & Result

IndiGlow : Seductive White Rejuvenating Moisturizer SPF30 PA++++ มาในบรรจุภัณฑ์แบบ Airless Tube ซึ่งดีในแง่ของความสะอาดและการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ เมื่อปั้มออกมาจะเห็นเป็นเนื้อโลชั่นสีฟ้าสดใสแปลกตา เมื่อเกลี่ยลงไปบนผิวก็จะกลืนไปกับผิวได้ไม่ยาก คุณสมบัติในการเป็นเมคอัพเบสสีฟ้าช่วยปรับโทนสีผิวให้ดูกระจ่างขึ้นในทันที เซ็ทตัวแบบกึ่งแมทและทำให้หน้าไม่มันวาวได้ในระดับหนึ่ง

จากการทดลองใช้ด้วยสภาพผิวและสีผิวของตัวเอง ผลที่ได้คือผิวดูกระจ่างขึ้นแต่ไม่ขาวแปลกหรือดูเทาบนผิว แต่เราไม่แน่ใจว่าในสีผิวที่เข้มกว่านี้จะได้ให้ผลออกมาเป็นอย่างไรบ้าง ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ทางแบรนด์แจ้งว่ามีคุณสมบัติ Water Resistance เนื่องจากเป็นเนื้อสัมผัสแบบ Water-In-Silicone แต่จากการทดลองใช้ก็พบว่ายังคงเกิดคราบผลิตภัณฑ์ขาแว่นได้บ้างเล็กน้อย ซึ่งเป็นเรื่องปกติของผลิตภัณฑ์กันแดดที่มี  Titanium Dioxide

ในแง่ของการเป็น  All-In-One Skincare สำหรับตอนกลางวัน ส่วนตัวพบว่าเนื้อผลิตภัณฑ์ยังให้ความชุ่มชื้นไม่พอสำหรับผิวผิวผสมที่ขาดน้ำง่ายโดยเฉพาะในช่วงแก้มและกรอบหน้า ต้องมีการบำรุงผิวที่เน้นความชุ่มชื้นมาเป็นขั้นตอนก่อนหน้า หรือใช้เพื่อช่วยเซ็ทสกินแคร์ที่อาจจะดูหนึบๆ  หรือมีความมันนิดหน่อยให้ดูนวลเนียนกำลังดี

ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม 

Conclusion

โดยสรุปแล้ว IndiGlow : Seductive White Rejuvenating Moisturizer SPF30 PA++++ นั้นเป็นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ All-In-One Skincare สำหรับตอนกลางวันที่พยายามนำเสนอส่วนผสมที่ใช้ทั้งเทคโนโลยีและส่วนผสมที่ไม่คุ้นตาเพื่อสร้างความแปลกใหม่จากผลิตภัณฑ์อื่นที่มีอยู่ในท้องตลาด ไม่ว่าจะเป็นสารกันแดดแบบ  Encapsulation และสารแคโรทีนอยด์ปราศจากสี สารสกัดสีฟ้าจากเห็ด แถมด้วยการนำเสนอ Instant Effect และเนื้อสัมผัสแบบกึ่งแมทไม่มันวาวที่คนไทยชอบ ความเห็นของปูเป้คือถ้าให้เช็คลิสต์มา คุณสมบัติหลักหลายอย่างนั้นมันก็ทำได้ตามที่ควรจะเป็น สารกันแดดที่ใช้นั้นมีเทคโนโลยีมาช่วยจนได้การปกป้องที่ครบทั้ง UVA และ UVB และก็ลงทุนกับการใช้เทคโนโลยี Encapsulation และสารสกัดจากแคโรทีนอยด์มาเสริมความเสถียร มีสารต้านอนุมูลอิสระ ต้านการระคายเคือง เสริมการปกป้องผิว มีส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น แพคเกจจิ้งดี ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมและทางแบรนด์ก็มีการส่งผลิตภัณฑ์ไปสอบถึง 2 แลปด้วยกัน ก็เห็นถึงความตั้งใจในการทำผลิตภัณฑ์

มีหลายส่วนผสมที่น่าสนใจทีเดียว และมีส่วนผสมที่ใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นเอาไปผสานกับเทคโนโลยีการสกัดของต่างประเทศเพื่อนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ เป็นสิ่งที่เราฟังแล้วรู้สึกดีนะ ถ้ามีแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับวัตถุดิบในท้องถิ่นกันมากขึ้นแบบนี้ อาจทำให้เกิดการพัฒนาจนเกิดการลงทุนในเทคโนโลยีจนขึ้นขั้นที่เราสามารถนำวัตถุดิบนั้นมาสกัดสารในระดับอุตสหกรรมได้ในประเทศเลย เราหวังว่าทางแบรนด์จะมีการสนับสนุนและมองหาวัตถุดิบในประเทศเพื่อนำมาพัฒนาต่อไปในอนาคต

สำหรับเรื่องการเซ็ทตัวแบบกึ่งแมทไม่มันวาวนั้นคงเป็นคุณสมบัติที่คนส่วนใหญ่น่าจะชอบกัน และการใช้สารสกัดเห็ดสีฟ้าก็ช่วยปรับโทนผิวที่ติดโทนเหลืองและแดงให้ดูกระจ่างขึ้นได้โดยไม่รู้สึกว่าเทาหรือทึบหนักผิว ถือว่าทำมาได้น่าประทับใจ  แต่โดยส่วนตัวปูเป้จะไม่ใช้กันแดดที่เซ็ทตัวแบบแมทในชีวิตประจำวันทุกวัน เนื่องจากเป็นคนที่ผิวขาดน้ำง่ายมาก จำเป็นต้องเตรียมผิวให้คามชุ่มชื้นเป็นพิเศษก่อนลงครีมตัวนี้ และต้องงดแป้งฝุ่นเพราะไม่งั้นจะรู้สึกว่ามัน matte เกินไป เลยทำให้ใช้เป็นประจำทุกวันไม่ได้ หากมีเนื้อสัมผัสที่ชุ่มชื้นกว่านี้เป็นอีกทางเลือกสำหรับสภาพผิวที่ขาดความชุ่มชื้นได้ง่าย หรือคนที่ไม่ชอบกันแดดเนื้อแมทก็น่าจะดีไม่น้อย

ความเห็นส่วนตัวเผื่อการนำไปพัฒนาสูตรในอนาคตคือปูเป้อยากให้มีค่า SPF ที่สูงกว่านี้ แม้ว่าค่า SPF 30 นั้นตามหลักการก็ากเพียงพอสำหรับชีวิตประจำวันแล้ว แต่เนื่องจากค่า SPF ที่เราจะได้จริงๆนั้นสัมพันธ์กับปริมาณของกันแดดที่เราทาลงไป ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเราทากันในปริมาณที่ไม่ถึงตามที่แนะนำที่ 3 ml ทั่วใบหน้าและลำคออยู่แล้ว การทำผลิตภัณฑ์ให้มีค่า SPF ที่สูงก็จะทำให้ผู้บริโภคได้ค่าการปกป้องที่มากกว่าแม้จะทาในปริมาณที่ไม่ถึงที่แนะนำไว้ก็ตาม อาจจะต้องมีการปรับกลุ่มของสารกันแดดที่ใช้เพื่อให้ได้ค่า SPF ที่สูงกว่านี้ แต่ก็จะเป็นความท้าทายในการคงเนื้อสัมผัสให้ได้เนื้อที่ดีแบบนี้อยู่พอสมควร

ใครที่สนใจ ผลิตภัณฑ์ตัวนี้วางจำหน่ายแล้วในร้าน  EVEANDBOY หรือสามารถสอบถามเพิ่มได้ทาง Facebook : IndiGlow Official หรือ www.indiglowglobal.com จ้า

สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง

***Sponsored Item***

IndiGlow : Seductive White Rejuvenating Moisturizer SPF30 PA++++
Price :  50ml / 1,290 Baht
Skin Type : All Skin Type
Outstanding :  Antioxidant, Anti-Aging, UV Protection, Semi-Matt

IndiGlow : Seductive White Rejuvenating Moisturizer SPF30 PA++++
*คะแนนดาวเรทติ้งจะแสดงผลไม่ถูกต้องหากเปิดอ่านบทความนี้จาก Smart Phones / Tablets*
FORMULA
GENTLENESS
SENSORY
RESULT
PUPE LOVE IT
PROS
  • สารกันแดดกัน UVA/UVB ได้ครบ เสริมด้วยส่วนผสมที่น่าสนใจในการต้านผลกระทบจากแสงแดดและอนุมูลอิสระในตอนกลางวัน
  • ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม และใช้บรรจุภัณฑ์ที่มิดชิด สะอาดและใช้งานสะดวก
  • เป็นเมคอัพเบสที่ทำให้ผิวดูกระจ่างขึ้น เนื้อไม่ทึบจนเกินไป เซ็ทตัวแบบกึ่งแมท
CONS
  • ไม่เชิงว่าเป้นข้อเสีย แต่อยากให้มีค่า SPF สูงกว่านี้
3.7Overall Score