วันนี้จะมาเล่าเรื่องทริปที่ได้ไปมา และทริปคราวนี้ก็เป็นอะไรที่แปลกใหม่เพราะมันเกี่ยวข้อกับ “มือถือ” ซะด้วยสิ ว่าแต่มือถือมาเกี่ยวข้องอะไรกับบล็อกของปูเป้ได้ จะงงหรือสงสัยก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะผมเองก็ยังงงอยู่เหมือนกัน… แต่เห็นว่างานนี้มีเพื่อกอล์ป BIZZARE ไปด้วยก็เลยตกลงไป (เพื่อเม้ามอยกะเพื่อนโดยเฉพาะ 555)
ทว่าจริง ๆ แล้วปูเป้เป็นหนึ่งคนที่พึ่งพาเทคโนโลยีการสื่อสารอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะเมื่อเริ่มใช้ Social Media อย่าง Facebook ในการตอบคำถามและสื่อสารกับผู้ที่คอยติดตามผลงาน ทำให้ Smart Phone เป็นสิ่งที่อยู่คู่กายตลอดเวลา จุดนี้ล่ะมั้งที่เป็นสิ่งที่ทาง Nokia เล็งเห็นว่าเราก็เป็น User คนหนึ่งที่สามารถเอาประสบการณ์มาเล่าให้ฟังได้ (แต่เรื่องเทคนิคเนี่ยไปหาดูในเวปมือถือเถอะนะ)
อย่างที่บอกว่าเรื่องเทคนิคเนี่ยเราฟังก็รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง แต่มีหัวข้อนึงที่ส่วนตัวรู้สึกว่าเป็นเทคโนโลยีที่สะดวกดีและจะเปลี่ยนมือถือที่ปัจจุบันนี้เป็นสิ่งที่แทบจะขาดไม่ได้อยู่แล้วให้กลายเป็นสิ่งที่ “ขาดไม่ได้” ไปเลย นั่นก็คือเทคโนโลยีที่ชื่อ NFC
เทคโนโลยี NFC สามารถทำให้มือถือของเราเป็นทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่เป็กระเป๋าสตางค์ที่สามารถใช้แตะเพื่อจ่ายค่าสินค้าและบริการต่าง ๆในห้างร้านหรือระบบขนส่งมวลชน ใช้แทนบัตรประจำตัว บัตรประชาชน สะสมแต้ม เก็บข้อมูล และอื่นๆ อีกมากมาย
Nokia N9 เครื่องนี้ก็มีชิพ NFC ฝังอยู่ ทำให้มันสามารถติดต่อกับมือถือหรืออุปกรณ์ต่อพ่วงอื่น ๆที่มีชิพ NFC ฝังอยู่ได้อย่างง่ายดายแค่แตะกันใกล้ ๆ (เห็นว่าเกม Angry Bird ที่แถมมาให้ในเครื่อง จะมีการให้ใช้คุณสมบัตินี้ในการปลดล็อคด่านต่อไปในเกมด้วย)
สิ่งที่คิดว่าโดดเด่นก็คือเรื่องของการดีไซน์และวัสดุที่ใช้ การออกแบบเน้นให้ดูเรียบง่ายแบบ Minimalist ซึ่งเป็นอะไรที่ดู Timeless (แบบว่าอีกสิบปีข้างหน้ามันก็ยังดูทันสมัยอยู่) หน้าจอกระจก Gorilla กันรอยขีดข่วนนั้นก็มีขอบที่โค้งมนทำให้รู้สึกว่ามันดูไม่แข็งทื่อ การประกอบดูแน่นหนาและทนทาน น้ำหนักเหมาะมือดีส่วนตัวชอบเครื่องสีดำที่สุดในบรรดาทั้ง 3 สีที่ผลิตออกจำหน่าย
หน้าจอ AMOLED ขนาด 3.9 นิ้วให้สีสันที่สวยสดดี สำหรับกล้อง 8 MP เห็นว่าใช้เลนซ์ Carl Zeiss ซึ่งมีความคมชัดสูง (เวปแคมที่บ้านก็ใช้เลนซ์แบบนี้แหล่ะ ภาพนิ้ง) การถ่ายวีดีโอที่ 720P ก็ไม่กระตุกหรือติดขัดในระหว่างทดลองใช้
การออกแบบที่ไม่มีปุ่มกด แต่ใช้การ Swipe ทั้งหมด 100% เป็นอะไรที่แปลกใหม่ ซึ่งต้องใช้การทำความคุ้นเคยกับระบบ Interface สักหน่อย แต่พอเริ่มใช้คล่องแล้วมันก็สะดวกทีเดียวนะ (และ Wallpaper ที่ให้มาก็น่าร๊ากกกกกก)
จุดที่คิดว่าน่าจะเป็นจุดอ่อนก็คงจะเป็นเรื่อง App ที่จะมา support เพราะว่าความหลากหลายคงมีน้อยกว่ามือถือที่ใช้ OS อื่นอย่าง Android อยู่แล้ว