Calecim Professional แบรนด์ใหม่จากสิงคโปร์กับครีมบำรุงผิวที่เปิดกระปุกดมแล้วถึงกับสตั้นไปสิบวินาทีของกลิ่นมาดามหอมชื่นใจราวกับมีอะไรตกไปตายอยู่ก้นกระปุก แต่หวานเป็นลมขมเป็นยา สกินแคร์ที่เราชอบนักหนาหลายตัวก็ล้วนแต่กลิ่นไม่ชวนดมเกือบทั้งสิ้น แน่นอนว่าไม่มีอะไรตกไปตายในนั้นแต่อัดแน่นไปด้วย Cell-Free Conditioned Media ซึ่งเปี่ยมไปด้วยสารอาหารและใส่มาอย่างเข้มข้นถึง 50% ในสูตรเลยล่ะ

Calecim Professional มีต้นกำเนิดจากอะไร? และอะไรคือ Cell-Free Conditioned Media? ทั้งหมดนี้ไม่ง่ายเลยที่จะอธิบายแต่เราก็ใช้กำลังภายในทุกอย่างมาสรุปให้ทุกคนได้อ่านกันแบบง่าย ๆ ในวันนี้

Calecim Professional

Calecim Professional เป็นการต่อยอดธุรกิจของบริษัทในเครือ CellResearchCorp บริษัทวิจัยด้านเซลล์ระดับโลกจากประเทศสิงคโปร์เพื่อเจาะตลาดเครื่องสำอาง บริษัทนี้มีความชำนาญทางด้าน Cell Biology และมีผลงานสำคัญในการสกัดแยก Epithelial Stem Cells และ Mesenchymal Stem Cells จากเนื้อเยื่อบุสายสะดือ (Umbilical Cord Lining Membrane) ซึ่งได้ Yield หรือปริมาณของเซลล์ที่สกัดได้ในปริมาณสูงและมีคุณภาพเมื่อเทียบกับการสกัดเซลล์จากแหล่งอื่นอย่างเช่น รก (Placenta) หรือ ไขกระดูก (Bone Marrow)

เขามีการวิจัยและตีพิมพ์ผลงานเอาไว้ในวารสารทางวิชาการไว้เยอะทีเดียว ซึ่งสรุปได้ว่าเซลล์ที่สกัดได้จากเนื้อเยื่อบุสายสะดือนี้มีคุณภาพสูงและคุณสบบัติในการฟื้นฟูที่โดดเด่น โดย Epithelial Stem Cells นั้นมีการแสดงออกของยีนและโปรตีนที่คล้ายคลึงกับเซลล์ Keratinocyte และสามารถนำมาใช้กับการซ่อมแซมผิวชั้นนอก (Epidermal Reconstruction) อย่างเช่นแผลที่ไม่ยอมหายด้วยการรักษาวิธีปกติ แผลไฟไหม้ และยังพบว่า  Mesenchymal Stem Cells ที่สกัดจากเนื้อเยื่อบุสายสะดือนี้มีประสิทธิภาพในการแบ่งตัวและฟื้นฟูได้ดีกว่าเซลล์ที่สกัดได้จากแหล่งอื่นซึ่งเซลล์นี้จะช่วยเสริมในส่วนของเซลล์ไฟโบรบาลาสต์มี่อยู่ในผิวชั้นหนังแท้

(Source : Stem cell-like properties of human umbilical cord lining epithelial cells and the potential for epidermal reconstitution.Immunological properties of extraembryonic human mesenchymal stromal cells derived from gestational tissue.Epithelial and mesenchymal stem cells from the umbilical cord lining membrane.)

ทางบริษัทได้มีการจดสิทธิบัติการค้นพบนี้และนำเสนอการรักษาทางการแพทย์ด้วย Stem Cell ที่สกัดแยกจากเนื้อเยื่อบุสายสะดือของมนุษย์เอาไว้ซึ่งเป็นส่วนที่แยกกันกับเครื่องสำอาง Calecim Professional แต่จำเป็นต้องเกริ่นเอาไว้เพราะมันจะเป็นส่วนที่ต่อยอดกันมา

Cell-Free Conditioned Media

แม้เราจะได้ยินคำว่า Stem Cell ในเครื่องสำอางกันมานานแต่ไม่มีใครสามารถนำ Stem Cell มาใส่ในเครื่องสำอางได้ และการเคลมถึงเซลล์ต้นกำเนิดในเครื่องสำอางนี้ยังผิดกฏหมายในแง่นิยามเครื่องสำอางของไทยอีกด้วย ความจริงแล้วเครื่องสำอางไม่มีทางที่จะใส่ส่วนผสม Stem Cell ได้เนื่องจาก Stem Cell จะยังคงต้องมีชีวิตอยู่ในการใช้งานแต่ในสูตรเครื่องสำอางไม่ใช่สภาวะที่จะคงสภาพเซลล์ที่มีชีวิตอยู่ได้ สิ่งที่อยู่ในเครื่องสำอางจึงเป็นสารที่สกัดออกมาจาก Stem Cell อีกที ซึ่งก็มักจะมาจากแหล่งของพืช หรือไม่ก็จากรกของสัตว์อย่างหมูหรือแกะ

Cell-Free Conditioned Media ของ Calecim ก็คือตัว Media หรือสารที่ใช้เลี้ยง Stem Cell ซึ่งในระหว่างที่เซลล์เติบโตแบ่งตัวนั้นก็จะมีโปรตีนและสารต่าง ๆ ที่ถูกหลั่งออกมาจาก Epithelial Stem Cells และ Mesenchymal Stem Cells ที่เขาเพาะออกมาล่องลอยอยู่ในนั้น และเมื่อเขาทำการแยกเอาเซลล์ออกไปเพื่อใช้ก็จะคงเหลือเป็นสารเลี้ยงเซลล์ที่ถูกเติมเต็มด้วยสารอาหารจากเซลล์โดยธรรมชาติที่จำเป็นต่อเซลล์อย่าง กรดอะมิโน โปรตีน เปปไทด์ Hyaluronic Acid และ Growth Factor ที่ช่วยเสริมการทำงานของเซลล์ และเขาก็พบว่ามันมีคุณสมบัติเป็นเยี่ยมในการดูแลและฟื้นฟูผิวเมื่อนำมาทาจะช่วยให้แผลสมานไวขึ้นและเสริมให้ผิวชั้นนอกแข็งแรง

 

Cell-Free Conditioned Media ในผลิตภัณฑ์ Calecim ไม่ได้มาจากมนุษย์แต่มาจากกวางแดงของประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งโดยปกติแล้วส่วนของสายสะดือนั้นจะถูกทิ้งเป็นของเหลือใช้อยู่แล้ว ดังนั้นส่วนผสมนี้จึงไม่ได้ก่ออันตรายกับตัวกวางแดง และกวางแดงยังไม่มีรายงานของการมีโรคติดต่อมาสู่คน จึงทำให้สารสกัดที่มาจากสายสะดือของกวางแดงมีข้อกังวลน้อยกว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่คุ้นเคยอย่างวัว หรือหมู

การใช้สายสะดือกวางแดงนั้นอย่างแรกเลยคือสามารถหา supply ได้สะดวกกว่า และทางแบรนด์ให้ข้อมูลว่าเนื่องจากสัตว์เลี้ยงลุกด้วยนมมีความคล้ายคลึงของโปรตีนที่ใช้สื่อสารระหว่างเซลล์ การเอาเพียง Conditioned Media มาใช้กับมนุษย์เพื่อการทาภายนอกจึงให้ผลดีเพียงพอแล้ว ส่วนการรักษาแบบ Stem Cell Therapy ทางการแพทย์แบบที่เป็นเซลล์ที่ยังมีชีวิตกับผู้ป่วยนั้นก็ยังคงเป็นเซลล์ที่สกัดจากสายสะดือของเด็กมนุษย์อยู่ดี

สรุปสั้น ๆ ว่า Cell-Free Conditioned Media ไม่เชิงว่าเป็นสารสกัดสเต็มเซลล์เสียทีเดียว แต่คือสารเลี้ยงเซลล์ที่แยกเอา Stem Cell ออกไปแล้วเหลือแต่สารอาหารบำรุงผิวเข้มข้นนั่นเอง และนี่คือส่วนผสมหลักในผลิตภัณฑ์ Calecim Professional

Product’s Formula

ส่วนผสมของ Calecim Professional : Skin Conditioning Cream (50g. / Baht) นั้นเรียบง่ายในส่วนประกอบแต่ซับซ้อนมากในแง่ของที่มาของส่วนผสมหลัก

Umbilical Extract หรือ Cell-Free Conditioned Media ที่กล่าวมาเสียยาวเหยียดก่อนหน้านี้นั่นเอง และในผลิตภัณฑ์นี้มีปริมาณมากถึง 50% ในกระปุกนี้ ส่วนผสมนี้อุดมไปด้วยสารอาหาร โปรตีน เพื่อการบำรุงผิว และทางแบรนด์เคลมว่าที่ต้องใส่มาเอะขนาดนี้เนื่องจากเขาพบว่าการที่จะให้ส่วนผสมเหล่านี้แพร่ซึมลงไปในผิวได้มากพอเมื่อทาลงไปนั้นจะต้องมีความเข้มข้นมากกว่า 30% ขึ้นไป  แต่ทางแบรนด์ไม่ได้ตีพิมพ์ข้อมูลเหล่านี้ลงในวารสารที่สามารถสืบค้นจากแหล่งอื่นได้ อันนี้ปูเป้ยังคงถือว่าเป็นคำเคลมอยู่ แต่จากเรื่องราวที่มาของส่วนผสมปูเป้คิดว่ามันน่าสนใจกว่าพวกสารสกัดจากรกหมู รกแกะ มากเลยล่ะ

ส่วนผสมอื่น ๆ ในผลิตภัณฑ์จะเป็นพวกกรดไขมันต่าง ๆ ที่ทำให้ประกอบเป็นเนื้อครีมได้ ซึ่งมีทั้ง Oleic Acid และ Linoleic Acid ซึ่งปกติแล้วสัดส่วนของกรดหลักสองชนิดนี้จะเป็นตัววัดคุณสมบัติในการบำรุงผิวของน้ำมันที่เราเอามาทาลงไปบนผิว Oleic Acid จะเหมาะกับคนที่มีผิวแห้ง ส่วน Linoleic Acid จะมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ และมักทำให้นำ้มันมีความเหลวมากกว่าจึงทำให้น้ำมันที่มีปริมาณ Linoleic Acid สูงจะเหมาะกับคนผิวมัน ปูเป้คิดว่าทางแบรนด์น่าจะเอกกรดไขมันเหล่านี้มาเพื่อสร้างเนื้อครีมที่ให้การคลุมปกป้องผิวและเสริมเรื่องปราการคุ้มครองผิวด้วย เพราะครีมตัวนี้ถูกทำมาเพื่อให้ใช้ได้แม้กับคนที่ทำเลเซอร์ หรือหัตการทางการแพทย์มาแล้ว

Lactic Acid และ Potassium Lactate ใช้เป็นตัวปรับค่า pH ของผลิตภัณฑ์และยังเป็นตัวให้ความชุ่มชื่นได้ มีข้อมูลว่า Lactic Acid สามารถเพิ่มประมาณ Ceramide ของผิวชั้นนอกได้ด้วยล่ะ แต่ความเข้มข้นในนี้ไม่เท่ากับข้อมูลของงานวิจัยเราก็ไม่แน่ใจว่าจะให้ผลได้เท่ากันรึเปล่า

สารกันเสียในผลิตภัณฑ์เป็นสารกลุ่ม Parabens และ Diazolidinyl Urea ซึ่งเป็นสารกันเสียที่อาจจะมีชื่อเสียงไม่ดีนักเพราะการตลาดแต่ก็มีประสิทธิภาพสูงมากในการเป็นสารกันเสียโดยเฉพาะอย่างยิ่งในผลิตภัณฑ์ที่มีสารพวกโปรตีนสูงมากถึงครึ่งหนึ่งของส่วนผสมทั้งหมดแบบนี้ สารกลุ่ม Paraben และ Diazolidinyl Urea ยังคงได้รับอนุญาติให้ใช้ในเครื่องสำอาง และ The Cosmetic Ingredient Review (CIR) ให้ความเห็นว่าปริมาณที่แนะนำในเครื่องสำอางยังเป็นความเข้มข้นที่ปลอดภัยอยู่

(Source :  Annual Review of Cosmetic Ingredient Safety Assessments: 2005/20061NEW DATA Parabens CIR EXPERT PANEL MEETING.)

นอกจากคามล้ำและนวัตกรรมของ Cell-Free Conditioned Media แล้ว ตัวเบสค่อนข้างธรรมดามาก ไม่มีสารบำรุงอื่น ๆ อีกเลยนอกจากวิตามินอีไว้กันหืนของส่วนผสมกรดไขมัน ซึ่งเราก็เข้าใจว่าทางแบรนด์เน้นเจ้า Cell-Free Conditioned Media จริงๆ และมองว่ามันคือสุดยดอาหารผิวที่เซลล์ใช้เลี้ยงตัวเองตามธรรมชาติอยู่แล้วล่ะ แต่สำหรับใครที่รู้สึกว่าอยากได้อะไรเพิ่มอีกสักนิด สารแอนติออกซิแดน์  วิตามิน ก็ลองหาผลิตภัณฑ์ประเภท Booster ดี ๆ หยดผสมลงไปเพิ่มก็ได้นะ

Ingredients : Umbilical Extract, Aqua, Oleic Acid, Cetearyl Alcohol, Linoleic Acid, Glyceryl Stearate, Palmitic Acid, PEG-40 Stearate, Ceterth-20, Stearic Acid, Disodium EDTA, 1,2-Propanediol, Lactic Acid, Tocopherol, Potassium Lactate, Diazolidinyl Urea, Propylparaben, Methylparaben.

Usage & Result

เนื้อผลิตภัณณ์เป็นเนื้อครีมสีขาวออกครีมจาง ๆ เนื้อครีมหากทาเดี่ยว ๆ ลงบนผิวที่สะอาดและเช็ดให้แห้งแล้วก็จะเคลือบผิวเบา ๆ และไม่เหนอะหนะ  แต่โดยส่วนตัวจะใช้ร่วมกับสกินแคร์อื่น ๆ ที่มีอยู่แล้วจะรู้สึกว่าครีมตัวนี้เคลือบผิวและทำให้ผิวดูวาวแบบมีอะไรเคลือบหน่อย ๆ แต่สามารถกลบได้ไม่ยากนักด้วยแป้งฝุ่น

ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม และด้วยความที่มีส่วนผสมของ Cell-Free Conditioned Media สูงถึง 50% บอกเลยว่ามันไม่หอมเท่าไหร่ แต่ถ้าเกิดใครเคยใช้ผลิตภัณฑ์พวกสารสกัดจากรก หรือ  Placenta ที่ไม่มีน้ำหอมผสม ก็น่าจะพอเดาได้ เพียงแต่อันนี้กลิ่นจะแรงกว่าอย่างเห็นได้ชัดเลย แต่ส่วนตัวเราโอเคนะ คือสกินแคร์ที่เราชอบหลายตัวกลิ่นไม่ค่อยโสภานัก ทำให้เรามีภูมิต้านทานกับกลิ่นแบบนี้ได้ดี ในทางกลับกันเรากลับทนกลิ่นน้ำหอมโดยเฉพาะพวกกลิ่นดอกไม้ฉุน ๆ ไมไ่ด้เท่าไหร่

ส่วนตัวเราชอบผลที่ได้นะ เราเป็นคนที่ถูกกับส่วนผสมพวกสารสกัดจากรกหรือ Placenta อยู่แล้ว และเจ้า Cell-Free Conditioned Media นี่มาจากเซล์ที่คุณภาพสูงกว่านั้นอีกแถมใส่มาเยอะมาก รู้สึกเลยว่าผิวนุ่มขึ้น แตะแล้วผิวเด้ง ๆ การคืนตัวหรือความยืดหยุ่นของผิวดีขึ้น แต่ก็ยังรู้สึกว่าอยากให้มันดีมากกว่านี้อีก เรื่องริ้วรอยและเรื่องความยกกระชับที่เขาเคลมเรายังไม่มีปัญหาตรงนี้เท่าไหร่เราจึงบอกผลตรงนี้ไม่ได้ล่ะ

Conclusion

โดยสรุปแล้ว Calecim Professional : Skin Conditioning Cream คือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่เฉพาะตัวมาก ใครที่ชอบหรือถูกโฉลกกับส่วนผสมอย่าง Placenta เราบอกเลยว่าอันนี้น่าเล่นกว่าเยอะและเข้มข้นสะใจ ตัวผลิตภัณฑ์ใช้ได้แม้แต่กับผิวที่บอบบางเพราะไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม ไม่นับว่าผลิตภัณฑ์นี้ถูกทำขึ้นมาเพื่อให้คนไข้ที่ทำเลเซอร์หรืออะไรพวกนี้นำกลับมาใช้ที่บ้านเพื่อฟื้นฟูผิวให้เร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย  จุดเดียวที่อาจจะต้องคำนึงถึงขึ้นมาหน่อยคือสารกันเสียที่ใช้ซึ่งเราเข้าใจว่าส่วนผสมที่เข้มข้นขนาดนี้จำเป็นต้องใช้สารกันเสียที่คุมพวกจุลชีพได้ดีมาก แต่เราก็เห็นว่าหากใช้บรรจุภัณฑ์ที่ลดการสัมผัสจากอากาศและการปนเปื้อนภายนอกได้ดีมาก ๆ แทนรูปแบบกระปุกแบบนี้น่าจะทำให้ปรับไปใช้สารกันเสียทางเลือกได้

โดยรวมเราชอบทุกสิ่งทุกอย่างในผลิตภัณฑ์ตัวนี้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวความเป็นมา ความน่าเชื่อถือ และความ Unique ไม่เหมือนใครของส่วนประกอบ แต่เรารู้สึกว่าหากมีผลิตภัฑ์ในรูปแบบเนื้อสัมผัสที่เบาบางกว่านี้เราจะเลิฟมันมากขึ้น ส่วนตัวเราอยากให้ในอนาคตเขามีผลิตภัณฑ์ที่เป็นเนื้อเซรั่มน้ำเหลว ๆ หรือเนื้อ Gel-Cream ที่เบาสบายผิวกว่านี้ออกมาบ้าง บอกเลยว่าถ้าเป็นเซรั่มน้ำเหลว ๆ ใช้ง่าย ๆ เราจะรักกว่านี้มากเลยล่ะ

สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง

***Sponsored Item***

  • Calecim Professional : Skin Conditioning Cream
Calecim Professional : Skin Conditioning Cream
*คะแนนดาวเรทติ้งจะแสดงผลไม่ถูกต้องหากเปิดอ่านบทความนี้จาก Smart Phones / Tablets*
FORMULA
GENTLENESS
SENSORY
RESULT
PUPE LOVE IT
PROS
  • Umbilical Extract เข้มข้นมากถึง 50%
  • ไม่มีส่วนผสมของสี น้ำหอม และส่วนผสมที่ระคายเคืองผิวได้ง่าย
  • เหมาะมากที่จะใช้ฟื้นบำรุงผิวหลังการทำเลเซอร์ หรือทรีตเนต์โดยแพทย์ผิวหนัง
CONS
  • อยากให้มีเนื้อสัมผัสที่เบากว่านี้
  • ถ้าใช้บรรจุภัณฑ์ที่ลดการสัมผัสอากาศและการปนเปื้อนน่าจะดีกว่านี้
3.7Overall Score