Aēsop : Lucent Facial Concentrate

หลังจากที่เรามาไซโคถึงความฟินให้ทุกคนอินไปกับ Fabulous Face Cleanser แล้ว หลายคนที่ชอบใจและอยากเริ่มใช้ Aēsop ตัวอื่นดูบ้างก็ถามเราว่าแบรนด์นี้มีอะไรน่าใช้อีกบ้าง เอาจริงๆ เราก็ยังไม่ค่อยได้ลองสกินแคร์ของเขาอย่างจริงจังเท่าไหร่เลยไม่รู้จะแนะนำอะไร แต่วันนี้เรามีของที่น่าสนใจมาบอกต่อล่ะ

คือ Aēsop เป็นแรนด์ที่เรียกว่าเน้นไลฟ์สไตล์จริง ๆ กับส่วนผสมรรมชาติเรียบง่ายไม่ซับซ้อน ในแง่ของส่วนประกอบหลายตัวก็จะดูไม่ได้ใช้เทคโนโลยีหรือส่วนผสมที่แอดวานซ์มากนัก (เน้นน้ำมันหอมระเหย ออยล์สกัดจากพืช สารสกัดนู่นนี่นั่น) แต่ก็จะมีกลุ่มผลิตภัณฑ์อีกส่วนนึงที่เรียกว่า Skin Care + ซึ่งจะเน้นไปที่การบำรุงแบบเข้มข้นมากกว่า และในปีนี้ก็มีการออกผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Skin Care + ที่เรียกได้ว่าน่าจะมีวิตามินเข้มข้นที่สุดในแบรนด์ของเขาแล้วก็ว่าได้ อย่าง Aēsop : Lucent Facial Concentrate (60ml / 4,500Baht)

Lucent Facial Concentrate เป็นผลิตภัณฑ์ที่สาวกของแบรนด์นี้น่าจะรอคอยกัน โดยเฉพาะในฝั่งเอเชียที่ยังไงซะผลิตภัณฑ์กลุ่มเพื่อผิวกระจ่างใสก็เป็นเป้าหมายหลัก และเนื้อผลิตภัณฑ์ที่บางเบาก็เป็นสิ่งที่ปรารถนา บอกเลยว่าพวกเธอได้สมหวังแล้วจ้าาาาาา โดยในแง่ของส่วนประกอบที่น่าสนใจก็ประกอบไปด้วยดังนี้

Sodium Ascorbyl Phosphate เป็นอนุพันธ์วิตามินซีเสถียร ซึ่งเขาก็ไม่ยอมบอกว่าใส่มาเท่าไหร่ แต่จากการคาดเดาส่วนตัวที่ตามหลัง Glycerin ที่โดยทั่วไปแล้วจะใส่มาอยู่ที่ราว 5% เพราะใส่เยอะไปมันจะเหนอะเหนียวได้ ก็เป็นไปได้ว่าวิตามินซีตัวนี้อาจจะใช้ในความเข้มข้น 5% หรือน้อยกว่า ซึ่งความเข้มข้นนี้ก็เป็นระดับที่ใช้ได้แล้วล่ะ คุณสมบัติก็เหมือนกับวิตามินซีคือช่วยต้านอนุมูลอิสระ เป็นไวท์เทนนิ่งได้ มีการศึกษาที่ระบุได้ว่า วิตามินซี SAP นั้นมีคุณสมบัติในการปกป้องเซลล์ผิวจากความเสียหายที่เกิดขึ้นจากรังสี UV ได้เป็นอย่างดี และยังมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ (Inflammation) ของผิวด้วย วิตามินซี SAP เข้มข้น 5% สามารถใช้ลดการอักเสบของสิวอย่างได้ผล น่าเสียดายถ้าผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีส่วนผสมของวิตามินอีมาด้วยจะทำงานร่วมกับวิตามินตัวนี้ในการต้านอนุมูลอิสระได้ดียิ่งขึ้นอีก

(Source : Protective effects of sodium-L-ascorbyl-2 phosphate on the development of UVB-induced damage in cultured mouse skin., Bioconvertible vitamin antioxidants improve sunscreen photoprotection against UV-induced reactive oxygen species., Comparison of clinical efficacies of sodium ascorbyl phosphate, retinol and their combination in acne treatment.)

Niacinamide หรือ Vitamin B3 ก็เป็นวิตามินสารพัดประโยชน์ที่นอกจากจะช่วยเรื่องการเป็นไวท์เทนนิ่งแล้ว ยังทำให้คุณภาพผิวโดยรวมดีขึ้นแบบครบวงจร ในความเข้มข้น 2% ขึ้นไป (ซึ่งตัวนี้ก็น่าจะถึงแหล่ะ) ช่วยเสริมการสร้างเซราไมด์ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น เก็บกักความชุ่มชื่นได้ดีขึ้น ต้านความคล้ำเหลืองของผิว ช่วยต้านการอักเสบ และถ้าผลิตภัณฑ์ตัวนี้มี Niacinamide มากกว่า 4% ขึ้นไปก็จะช่วยลดการอักเสบของสิวได้เทียบเท่ากับการทายา Clindamycin เลยนะ แต่ว่าเขาไม่เปิดเผยข้อมูลตรงนี้มาให้เราเลยยืนยันไม่ได้นะฮะ

Sodium Carrageenan หรือ Hydranov โดยบริษัท Codif เป็นส่วนผสมของน้ำตาลเชิงซ้อน Oligofurcellaran ที่ได้มาจากสาหร่ายสีแดง Furcellaria Lumbricalis ซึ่งสามารถที่จะอุ้มความชุ่มชื่นได้คล้ายกับ Hyaluronic Acid และยังช่วยกระตุ้นการสร้าง Hyaluronic Acid ในผิวชั้นนอกตามธรรมชาติ และยังเพิ่มการสร้าง Filaggrin ซึ่งเป็นตัวตั้งต้นของบรรดา Natural Moisturizing Factor ในผิวทั้งหลายแหล่  ทั้งหมดนี้เป็นคำเคลมจากผู้ผลิตสารนะฮะ ยังไม่มีข้อมูลอื่นมาสนับสนุน แต่โครงสร้างน้ำตาลเชิงซ้อนมีคุณสมบัติพื้นฐานในการเก็กกักความชุ่มชื่นอยู่แล้วล่ะ

Biosaccharide Gum-1 หรือ Fucogel เป็นโครงสร้างโพลีแซคคาไรด์อันประกอบไปด้วยน้ำตาลสามชนิดอย่าง  Galacturonic acid กับ L-Fucose และ D-Galactose  ที่ได้จากการหมักบ่มแบคทีเรีย เป็นตัวช่วยสร้างเนื้อสัมผัสที่บางเบาและเป็นฟิลม์ที่ช่วยกันการระเหยของความชุ่มชื่นจากผิวได้เป็นอย่างดี

Boswellia Carterii Oil หรือ Frankincense เป็นน้ำมันหอมระเหยที่มีการใช้ทั้งกินและกับผิวมานานับพันปีแล้วแต่การศึกษาถึงประโยชน์ในเชิงวิทยาศาสตร์นั้นมีมาไม่นานนี้เองซึ่งเขาว่าสาร Boswellic Acids นั้นมีคุณสมบัติที่ดีมากในการต้านการอักเสบ และยังมีการศึกษาที่พบว่าสารสกัด Boswellic Acids 0.5% สามารถฟื้นฟูผิวเสียหายและมีริ้วรอยจากแสงแดดได้เป็นอย่างดี  อย่างไรก็ตามน้ำมันหอมระเหยไม่ได้มีแต่ Frankincense นั้นไม่ได้มีแต่ Boswellic Acids อย่างเดียว ยังมีสารกลุ่ม Fragrance Component อีกมากมาย ซึ่งมีโอกาสที่เราอาจจะไปพ้หรือระคายเคืองกับตัวไหนในนั้นก็ได้ อันนี้ใครที่ผิวค่อนข้าง sensitive จะต้องทดสอบกันดูก่อนนะฮะ

(Source : Anti-inflammatory activities of the triterpene acids from the resin of Boswellia carteri., Boswellia resin: from religious ceremonies to medical uses; a review of in-vitro, in-vivo and clinical trials., Topical Boswellic acids for treatment of photoaged skin.)

Fusanus Spicatus Wood Oil หรือน้ำมันหอมระเหย Sandalwood ช่วยแต่งเรื่องของกลิ่นหอม ด้วยตัวของมันเองมีคุณสมบัติเป็น Antiseptic เพื่อช่วยต้านแบคทีเรียได้ มีการทดสอบผลิตภัณฑ์ที่ผสม Sandalwood Oil ในผลิตภัณฑ์รักษาสิวบ้างและพบว่ามีผลข้างเคียงน้อย แต่ก็ไม่ได้การันตีว่าจะไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง

Rosa Damascena Flower Oil หรือน้ำมันหอมระเหยจากกุหลาบ ซึ่งก้เช่นเดียวกันกับน้ำมันหอมระเหยอื่น ๆ คือมีทั้งแง่บวกและลบในตัว  ในทางหนึ่งสารที่ได้จากกุหลาบนั้นช่วยต้านการอักเสบและปลอบประโลมผิว ต้านอนุมูลอิสระได้ แต่ว่าสาร Fragrance Component หลายชนิดที่ทำให้เราได้กลิ่นหอม ๆ ก็มีโอกาสที่เราจะไปแพ้หรือระคายเคืองได้ แต่ถ้าใช้แล้วไม่มีปัญหาก็ถือว่าโชคดีไปล่ะ

(Source : Pharmacological Effects of Rosa Damascena)

Ingredients : Water (Aqua), Glycerin, Sodium Ascorbyl Phosphate, Niacinamide, PEG-40 Hydrogenated Castor Oil, Phenoxyethanol, Citric Acid, Xanthan Gum, Sodium Gluconate, Sodium Dehydroacetate, Bisabolol, Polysorbate 20, Boswellia Carterii Oil, Fusanus Spicatus Wood Oil, Rosa Damascena Flower Oil, Biosaccharide Gum-1, Sodium Carrageenan, Glyceryl Caprylate, Sodium Anisate, Sodium Levulinate, Sea Salt (Maris sal), d-Limonene, Citronellol, Farnesol, Geraniol.

เนื้อสัมผัสเป็นเซรั่มที่มีความข้นในระดับหนึ่ง สีออกเหลืองจาง ๆ จากส่วนผสมของวิตามินซีและน้ำมันหอมระเหย เนื้อสัมผัสนั้นกลื่นไปกับผิวได้ไวและไม่เหนอะหนะ ให้ความชุ่มชื่นมากพอที่จะเป็นมอยซ์เจอไรเซอร์ไปในตัวได้เลยสำหรับคนที่มีผิวมันในสภาพอากาศที่ร้อนชื้นในแถบบ้านเรา  ในตอนกลางคืนแนะนำให้ลงมอยซ์เจอไรเซอร์เพิ่มสำหรับคนที่นอนห้องปรับอากาศ

ประสบการณ์ในการใช้นั้นปูเป้ใช้เซรั่มตัวนี้คู่ไปกับ Aēsop : Paesley Seed Anti-Oxidant Serum และตามด้วย Oil บำรุงผิวทั้งในตอนกลางวันและกลางคืน ก็พบว่าให้ความชุ่มชื่นผิวที่เพียงพอในขณะเดียวกันก็ไม่หนักผิวเกินไป  ตลอดระยะเวลา 3 สัปดาห์หลังจากการไปกดสิวรอบล่าสุดพบว่ารอยสิวโดยรวมก็จางลงในระดับที่พอใจ และคุณภาพผิวโดยรวมดีมากเลยล่ะ ผิวชุ่มชื่น และมีความใสของผิวที่ดี

ปูเป้คงจะไม่บอกว่าผลที่ได้ทั้งหมดนั้นมาจากเซรั่มตัวนี้แค่ตัวเดียว แต่มันเป็นส่วนหนึ่ในการบำรุงผิวของปูเป้ตั้งแต่การทำความสะอาดที่อ่อนโยน การมาสก์หน้าบ่อยๆ  และการอัดความชุ่มชื่นอย่างหนักหน่วง แต่โดยรวมแล้วเราแฮปปี้มากกับผลที่เราได้

โดยสรุปแล้ว Aēsop : Lucent Facial Concentrate เป็นผลิตภัณฑ์สกินแคร์สำหรับผิวหน้าที่เราว่าน่าสนใจที่สุดแล้วของ Aēsop ทั้งในแง่ส่วนประกอบที่คาดหวังผลได้ เนื้อสัมผัสที่ใช้ได้จริงในสภาพอากาศบ้านเรา ผลที่ได้ก็น่าประทับใจเลยล่ะ ที่สำคัญราคาที่เมื่อเทียบต่อปริมาณแล้วก็ถือว่าเบากว่าที่คิดสำหรับผลิตภัณฑ์ระดับเคาน์เตอร์แบรนด์ (60ml นี่เท่ากับเซรั่มในแบรนด์อื่น ๆ  2 ขวดเลยนะ!!!)

ข้อเสียที่เราอยากจะตินิดหน่อยก็คือความเลอะเทอะในการใช้ เนื่องจากฝาขวดมันแคบมากและเนื้อผลิตภัณฑ์มันมีความเข้มข้นในระดับนึงมันจึงเกาะที่ขอบของหลอดหยดไว้เยอะพอสมควร ถ้าไม่เล็งให้ดีตอนจะแทงหลอดหยดกลับเข้าปากขวด เนื้อผลิตภัฑ์ที่ติดอยู่มันก็จะปาดกับปากขวดแล้วก็ไหลเลอะเทอะมาเป็นที่น่าเสียดาย  (และน่าหงุดหงิด)

สำหรับเรื่องส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยก็เป็นส่วนผสมที่มีทั้งข้อดีและข้อเสียในตัว มันคงจะดีกว่านี้ถ้าจะใช้สารที่สกัดแยกมาเลยเพื่อให้ได้ในแง่ดีโดยไม่ต้องมาสุ่มเสี่ยงดวงกับสารข้างเคียงอื่น ๆ (แม้ว่ามันจะหอมชวนดมก็เถอะ) แต่ถ้าคุณทดสอบแล้วว่าใช้ได้ คุณไม่ได้แพ้กับส่วนผสมดังกล่าวก็ใช้สามารถใช้ได้จ้า

สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง

***Sponsored Item***

• Aēsop : Lucent Facial Concentrate