หลายคนน่าจะรู้จักแบรนด์ VICHY กันอยู่แล้วว่ามีน้ำแร่เป็นส่วนประกอบ แต่ก็อาจจะไม่ใช่ทุกคนที่รู้ว่าน้ำแร่ของ VICHY นั้นเป็นหนึ่งในน้ำแร่ที่มีแร่ธาตุเข้มข้นสุดเป็นอันดับต้น ๆ ในท้องตลาด และเราก็เชื่อว่าหลายคนก็ไม่รู้มาก่อน (เราเองก็พึ่งรู้) ว่าผลิตภัณฑ์ของ VICHY ที่เราเคยใช้กันไม่เคยมีตัวไหนสามารถใส่น้ำแร่ของเขาได้มากกว่า 20% มาก่อนเลยจนกระทั่งถึงตอนนี้

สงสัยกันหรือไม่ว่าทำไมแต่ก่อนถึงไม่สามารถใช้น้ำแร่ VICHY ในสูตรได้มากกว่า 20%? แล้วทำไมถึงต้องพยายามพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใช้น้ำแร่ VICHY ให้ได้มากที่สุด? น้ำแร่ VICHY แตกต่างอย่างไร? วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึงแหล่งกำเนิดของแบรนด์กันเลย

History of VICHY Spa Water

ปูเป้ก็น่าจะเหมือนกับหลายคนที่เคยคิดว่า น้ำแร่อะไรก็เหมือนกัน น้ำแร่กระป๋องหรอ? การตลาดรึเปล่า? ซื้อน้ำแร่ดื่มกินมาใส่ขวดปั้มเองก็เหมือนกันไหม? น้ำแร่ก็แค่พ่นให้ผิวรู้สึกสดชื่นไม่ได้ช่วยอะไรมากไปกว่านั้นไม่ใช่หรือ? แต่ความคิดที่ว่ามาทั้งหมดนั้นผิดถนัด เพราะเอาเข้าจริง ๆ น้ำแร่แต่ละแหล่งนั้นมีความแตกต่างทั้งแง่ของปริมาณความเข้มข้นของแร่ธาตุและความหลากหลาย (จริงๆ  ไม่ต้องพูดถึงน้ำแร่หรอก แค่น้ำประปาต่างเขตหรือคนละจังหวัดยังไม่เหมือนกันเลย) ความเฉพาะตัวที่บางแหล่งจะมีแร่ธาตุบางตัวที่แหล่งอื่นไม่มีหรือมีมากจนโดดเด่นกว่าที่อื่นซึ่งเจ้าแร่ธาตุพวกนี้นี่แหล่ะคือแก่นสำคัญของคุณสมบัติที่แตกต่างไปของน้ำแร่แต่ละชนิด ซึ่งเมื่อปี 2016 ที่ผ่านมาปูเป้ได้รีวิวผลิตภัณฑ์ VICHY จริงจังครั้งแรก จึงได้หาข้อมูลเกี่ยวกับน้ำแร่ของเขาและพบข้อมูลอันน่าสนใจว่าน้ำแร่ VICHY เป็นหนึ่งในน้ำแร่ที่มีความเข้มข้นและหลากหลายของแร่ธาตุสูงสุดในบรรดาแบรนด์สกินแคร์เลยก็ว่าได้


ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาปูเป้ได้มีโอกาสเดินทางไปประเทศฝรั่งเศสและหนึ่งในสถานที่ ๆ ได้ไปเยือนก็คือเมือง VICHY ซึ่งอยู่ในแคว้น Auvergne ซึ่งอยู่ในตอนกลางของประเทศที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยภูเขาและภูเขาไฟโบราณอันเป็นแหล่งกำเนิดของน้ำแร่ลือชื่อแห่งเมือง VICHY อันร่ำรวยวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ซึ่งเกี่ยวข้องกับน้ำแร่มาอย่างยาวนานตั้งแต่แต่สมัยโรมัน และในช่วงกลางศตวรรษที่ 18 เมือง VICHY ก็กลายเป็นจุดมุ่งหมายของฝูงชนเมื่อพระเจ้านโปเลียนที่ 3 ได้รู้เกี่ยวกับเรื่องราวของน้ำแร่ที่เมืองนี้และมาพำนักอาศัยเพื่อพักรักษาตัว

แน่นอนเมื่อราชาผู้ครองประเทศมาอาศัยที่นี่ก็ต้องมีการสร้างโรงอาบน้ำไฮโซอลังการ ชนชั้นสูง ขุนนางทั้งหลายก็ต้องตามย้ายมาอยู่ในย่านที่ฮิปที่สุดในยุคนั้นกันอย่างคับคั่ง   ทำให้เมือง VICHY กลายเป็นเมืองตากอากาศชั้นสูงที่คนจะมาหลบพักผ่อนทำสวยทำสปากัน ในยุคปัจจุบัน ปัจจุบันเมืองนี้เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามอายุหลายร้อยปีทั้งบ้านเรือน รวมไปถึงโรงโอเปร่า ณ ใจกลางเมืองที่สวยงาม

เมือง VICHY มีแม่น้ำไหลพาดผ่านและสองฟากแม่น้ำเป็นสวนที่ร่มรื่นสำหรับทำกิจกรรม วิ่งออกกำลังกาย ปั่นจักรยาน และกีฬาทางน้ำ เป็นเมืองที่ผู้คนดูแอคทีฟ กระปรี้กระเปร่า อากาศสะอาดบริสุทธ์สมกับเป็นปลายทางแห่งการพักผ่อนอย่างแท้จริง

จะไปหาบ่อน้ำแร่ของ VICHY หรือ? คุณไม่ต้องบุกป่าขึ้นเขาฝ่าดงพงไพรเดินลัดไหล่เขาไปหาแต่อย่างใด เพราะตาน้ำแร่ผุดบุ๋ง ๆ มันอยู่ในจัตตุรัสกลางเมืองเลยจ้า ที่เป็นแบบนั้นเพราะว่าเมืองนี้ถูกสร้าขึ้นเพราะชื่อเสียงของบ่อน้ำแร่ ความเจริญและศูนย์กลางของเมืองจึงเกิดขึ้นรอบ ๆ บ่อน้ำแร่นั่นเอง

เมือง VICHY มีน้ำแร่ทั้งหมด 14 บ่อซึ่งมีทั้งน้ำแร่ร้อนและเย็น โดยแหล่งที่มีชื่อเสียงอย่าง Celestine ถูกใช้เพื่อดื่มและมีสรรพคุณช่วยในเรื่องระบบย่อยอาหาร มีความซ่าโดยธรรมชาติและมีรสออกเปรี้ยวนิดหน่อย ขอบอกว่าไปใช้ชีวิตที่เมืองนี้แล้วอาการท้องอืดท้องเฟ้อที่ปกติเรามีปัญหานี้มันดีขึ้นทันตาเห็นเลยล่ะคุณ น้ำแร่บางแหล่งถูกใช้เพื่อการรักษาโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารหรืออื่น ๆ และต้องสั่งให้ดื่มโดยแพทย์เท่านั้น สำหรับแหล่ง Lucas เป็นแหล่งที่มีความหลากหลายของแร่ธาตุมากและถูกใช้เพื่อการประทินผิวและเป็นแหล่งที่ถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์เวชสำอาง VICHY แต่เราลองดื่มดูแล้วมันออกเปรี้ยวและมีกลิ่นออกกำมะถันหน่อย ๆ

การเก็บน้ำแร่เพื่อนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์ VICHY จะทำในตอนกลางคืนด้วยระบบปิดที่ลึกลงไป 15 เมตรเพื่อไม่ให้น้ำแร่สัมผัสกับแสงและถูกส่งไปยังโรงงานผลิตที่ห่างไปเพียง 4 กิโลเมตรเพื่อเข้าสู่กระบวนการกรองและทำให้ปราศจากเชื้อ โดยน้ำแร่ที่ผ่านกระบวนการและทดสอบตามมาตรฐานะถูกเก็บไว้ให้พ้นแสงจนวินาทีสุดท้ายก่อนผสมเข้ากับสูตรผลิตภัณฑ์ โดยน้ำแร่ที่จะถูกนำเก็บไว้ไม่เกิน 7 วันจ้า

VICHY Spa Water for Stronger Skin

น้ำแร่ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ VICHY เป็นน้ำแร่ระดับ High Mineral  Concentration โดยปริมาณของแร่ธาตุที่สูงมาก มากกว่า 5,000 มิลลิกรัม ต่อ 1 ลิตร และยังมีความหลากหลายของ Trace Element ที่หลากหลายซึ่งมีหลัก ๆ อยู่ 15 ชนิด ความหลากหลายของแร่ธาตุนี้ทำให้น้ำแร่ VICHY มีการศึกษาพบแล้วว่าช่วยเพิ่มการทำงานของเอนไซม์  Catalase ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวบ่งชี้การปกป้องตัวเองจากอนุมูลอิสระในผิว มีคุณสมบัติในการเป็น Buffer Effect เพื่อช่วยปรับค่า pH ของผิวจากกรดหรือด่างที่เข้ามากระทำกับผิว

สรุปง่าย ๆ คือน้ำแร่ VICHY มีความโดดเด่นในแง่ของการเสริมกระบวนการปกป้องตัวเองของผิว คงค่าความเป็นกรดด่างของผิวที่อาจเสียสมดุลไปจากสารเคมีหรือมลภาวะ และช่วยเสริมความแข็งแรงของผิวนั่นเอง

(Source : Effect of Vichy water on catalase activity in the stratum corner.Soothing effect of Vichy thermal spa water after glycolic acid peelings: A clinical randomised studyInhibitory effect of Lucas spring water on substance P induced inflammation in organ culture of human skin)

Exposome VS Skin Barrier

Skin Aging Exposomes

ผิวของเราเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดของร่างกายโดยผิวชั้นนอกสุดนั้นเป็นเหมือนกำแพงที่คอยปกป้องการรุกรานจากปัจจัยภายนอก จุลชีพที่ก่อโรค อนุมูลอิสระ รังสีอันตราย และช่วยเก็บรักษาความชุ่มชื่น ในปัจจุบันมีการสึกษาเกี่ยวกับปัจจัยแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายและสุขภาพของมนุษย์ซึ่งเรียกว่า Exposome ซึ่งมีตั้งแต่สภาพแวดล้อมภายนอกรวมไปถึงการใช้ชีวิต การกิน หรือทุกสิ่งที่ช่วงชีวิตเราต้องสัมผัส หรือ Expose กับสิ่งนั้น

แน่นอนว่าผิวของเราต้อง Expose สัมผัสกับสิ่งที่มีผลกระทบกับผิวไม่ว่าจะสภาพอากาศที่แย่ มลพิษที่สูง รังสี แสงแดด อุณหมิที่สุดชั้วหรือเปลี่ยนแปลงกระทันหัน สารเคมี หรือแม้แต่พฤติกรรม การกระทำที่รุนแรงกับผิว แต่หลายคนก็อาจจะไม่รู้ว่าการใช้ชีวิต การกิน หรือพฤติกรรมบางอย่างเช่นการนอนหลับไม่เพียงพอ ไม่มีคุณภาพพอ ความเครียดก็ส่งผลลบโดยตรงกับผิวเช่นกัน ค่าความเป็นกรดด่างจะเสียไป การยึดติดของเซลล์หลวมตัวเปิดช่องว่างให้ความชุ่มชื่นระเหยออก สุญเสียความยืดหยุ่นเปล่งปลั่ง ในขณะเดียวกันก็เปิดช่องให้สารระคายเคือง สารก่ออาการแพ้ หรือจุลชีพเข้ามาก่อปัญหาผิวได้ง่ายขึ้น

ทาง VICHY จับจุดเด่นของน้ำแร่ของเขาในการปกป้องและเสริมการป้องกันของผิว เพื่อให้ผิวสามารถยังคงสุขภาพที่และต้านทานกับ Exposome ที่เราต้องเจอกันอยู่ทุกวัน จึงเกิดเป็นแนวคิดของผลิตภัณฑ์เซรั่มน้ำแร่ที่เข้มข้นที่สุดถึง 89% นั่นเอง

(Source : The skin aging exposome)

A Gift From Nature – A Formulator’s Nightmare

ความเข้มข้นหลากหลายของแร่ธาตุและคุณสมบัติในการบำรุงผิวเหล่านี้ของน้ำแร่ VICHY เป็นเหมือนขุมสมบัติก็ว่าได้นะ คือมันฟังดูดีจะตายที่ส่วนผสมที่ใช้เป็นน้ำในสูตรไม่ได้เป็นแค่น้ำเปล่า ๆ ธรรมดาแต่มีคุณค่าการบำรุงและเสริมการปกป้องผิวได้แถมมีงานวิจัยแบคอัพอีกต่างหาก อะไรจะเลิศขนาดนี้ แต่ความเป็นจริงมันไม่ได้สวยหวานปูด้วยกลีบกุหลาบน่ะสิ

ในทางกลับกันเมื่อมองในแง่ของการทำสูตรเครื่องสำอาง น้ำแร่ VICHY ที่อัดแน่นไปด้วยแร่ธาตุมันคือฝันร้ายดี ๆ ของนักเคมีเครื่องสำอาง เพราะตามปกติแล้วส่วนผสมของน้ำที่ใช้ในเครื่องสำอางจะเป็นน้ำบริสุทธิ์ที่ถูกเอาแร่ธาตุออกไปเพื่อไม่ให้พวกแร่าตุไปทำปฏิกิริยากับส่วนผสมต่าง ๆ ที่ประกอบขึ้นมาเป็นเนื้อผลิตภัณฑ์ หรือน้ำแร่ระดับที่มีความเข้มข้นของแร่ธาตุต่ำก็จะไม่ค่อยมีข้อจำกัดตรงนี้เท่าไหร่ แต่ความเข้มข้นของแร่ธาตุที่สูงมากของน้ำแร่ VICHY ทำให้การทำเครื่องสำอางที่มีความเสถียร คงตัวเป็นเรื่องที่ยากมาก การเอาน้ำแร่ VICHY ไปแทนที่ส่วนผสมของน้ำในสูตรเครื่องสำอางปกติอาจทำให้เนื้อครีมเหลวเป็นน้ำไม่คงตัวหรือแยกชั้น หรือเอาไปผสมในตัวก่อเจลก็อาจจะไม่ข้นอยู่ตัวหรือเกิดเป็นตะกอนขุ่นมัวในเนื้อเจล หรืออาจจะทำให้ส่วนผสมที่ใส่เข้าไปและไม่เข้ากันเกิดการเปลี่ยนสี ตกผลึก ตกตะกอน และอีกสารพัด

รูปด้านบนคือตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าสูตรอีมัลชั่นที่ที่มีเนื้อสัมผัสข้นคงตัวทั่วไปนั้นเมื่อเปลี่ยนน้ำในสูตรมาเป็นน้ำแร่วิชี่นั้นจะไม่ให้ผลแบบเดียวกัน อีมัลชั่นที่ได้จะไม่คงตัวและเหลวเป็นน้ำทั้งที่ส่วนประกอบอื่น ๆ เหมือนกันทุกอย่าง

ดังนั้นในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวของ VICHY ที่เราใช้กันมาไม่เคยมีตัวไหนสามารถใส่น้ำแร่นี้ได้เกิน 20% มาก่อนเลยเพราะเหตุนี้ และหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่เขาพัฒนายากที่สุดก็คือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารกันแดดนั่นเอง

Product’s Formula

เกริ่นมายาว ในที่สุดเราก็มาถึงข้อมูลส่วนประกอบทั้งหมดของผลิตภัณฑ์ตัวนี้กัน VICHY : Mineral 89 (50ml / 1,300 BAHT) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกทำขึ้นมาโดยมีแนวคิดว่าต้องใช้ส่วนผสมของน้ำแร่ VICHY ให้มากที่สุดซึ่งเทคโนโลยีในปัจจุบันคงยังไม่สามารถทำให้เป็นเนื้ออีมัลชั่นได้และมีข้อจำกัดเยอะในการเลือกส่วนผสมที่เข้ากันได้ ดังนั้นจึงเป็นผลิตภัณฑ์แบบ Water Base โดยเลือกใช้โพลิเมอร์ที่เข้ากันจนสามารถทำให้เกิดเป็นเนื้อเจลที่อยู่ตัวและยังคงความใสให้ได้มากที่สุด

จะว่าไปตั้งแต่เรารู้จักแบรนด์ VICHY มา นี่เป็นครั้งแรกที่ทางแบรนด์พุ่งเป้าและสื่อสารอย่างเต็มที่ถึงตัว “น้ำแร่ VICHY” ว่าในฐานะ Active Ingredients หรือส่วนผสมสำคัญที่มีผลกับการบำรุงผิวแบบจริงจัง (ที่ผ่านมาจะบอกว่ามีสารสกัดนี่ วิตามินโน่น ช่วยนั่นช่วยนี่ แล้วบอกว่า “มีส่วนผสมของน้ำแร่วิชี่” แล้วจบปิ๊งทิ้งไว้งง  ๆ ว่าน้ำแร่วิชี่มีดียังไงถึงต้องใส่มา)  นอกจากส่วนผสมของน้ำแร่ VICHY 89% แล้ว ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ตัวนี้ก็มีความเรียบง่ายจนสามารถแจงให้อ่านทีละตัวยังได้

PEG/PPG/Polybutylene Glycol-8/5/3 Glycerin ผู้ผลิตสารตัวนี้ (ชื่อทางการค้า WILBRIDE™ S-753) เคลมว่าให้คุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื่นแบบ Glycerin แต่ให้เนื้อสัมผัสที่นุ่มลื่นผิว เมื่อผสมกับ Glycerin ในสูตรจะช่วยทำงานเสริมกันอย่างมีประสิทธิภาพและช่วยลดความเหนอะหนะของ Glycerin ในสูตรได้

Glycerin เป็นส่วนผสมให้ความชุ่มชื่นพื้นฐานในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว มักใช้ไม่มากเกิน 5% เพราะใช้เยอะแล้วเหนอะผิว

Butylene Glycol ตัวทำละลาย ช่วยให้ผลิตภัณฑ์ซึบซามได้ดีขึ้นและช่วยเรื่องความชุ่มชื่น

Methyl Gluceth-20 สารให้ความชุ่มชื่นที่มีประสิทธิภาพสูง

Carbomer เป็นชื่อรวม ๆ ของโพลิเมอร์ที่ก่อเนื้อเจล มีรุ่นต่าง ๆ ที่มีคุณสมบัติจำเพาะลงไปอีก

Sodium Hyaluronate รูปแบบเกลือของ Hyaluronic Acid เป็นส่วนผสมมาตรฐานในการอุ้มความชุ่มชื่นให้กับผิว

Phenoxyethanol สารกันเสียชนิดนึงที่มักใช้กันเพื่อเลี่ยงสารกันเสียกลุ่ม Parabens

Caprylyl Glycol เป็น co-preservatives เพื่อเสริมกับ Phenoxyethanol

Citric Acid ใช้เพื่อปรับค่า pH ของผลิตภัณฑ์ ทำให้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีค่า pH ประมาณ 5.5 ซึ่งค่าเป็นกรดด่าวของผิวจะอยู่ที่ 4.5 – 6.5

Biosaccharide Gum-1 เป็นโครงสร้างโพลีแซคคาไรด์อันประกอบไปด้วยน้ำตาลสามชนิดอย่าง  Galacturonic acid กับ L-Fucose และ D-Galactose  ที่ได้จากการหมักบ่มแบคทีเรีย ทางแบรนด์เคลมเอาไว้ว่าเป็นตัวช่วยสร้างม่านฟิลม์ที่เก็กกักความชุ่มชื่นเอาไว้บนผิว

(Source : Structure and properties of a bacterial polysaccharide named Fucogel.)
ส่วนผสมมีทั้งหมด 11 อย่าง ทั้งหมดเน้นไปในเรื่องของการเติมความชุ่มชื่นเพิ่มความอิ่มฟูของผิวชั้นนอก กับส่วนผสมที่สร้างฟิลม์บาง ๆ คลุมผิวลดการเสียความชุ่มชื้น และใช้ส่วนผสมของน้ำแร่ VICHY เป็นหลักในการเสริมกระบวนการปกป้องตัวเองของผิวตามธรรมชาติ โดยรวมมันเบสิคมาก ไม่มีสี ไม่มีน้ำหอม ไม่มีซิลิโคน ไม่มีอะไรระคายเคืองผิวเลย อ่อนโยนสุด ๆ โอกาสแพ้ต่ำเตี้ยเรี่ยดินจริง ๆ เพราะมีส่วนผสมแค่นี้แหล่ะ

Ingredients : Aqua / Water / Eau, PEG/PPG/Polybutylene Glycol-8/5/3 Glycerin, Glycerin, Butylene Glycol, Methyl Gluceth-20, Carbomer, Sodium Hyaluronate, Phenoxyethanol, Caprylyl Glycol, Citric Acid, Biosaccharide Gum-1. (Code F.I.L. :B192067/1)

Usage & Result

เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นเจลใสมีความคงตัวเล็กเล็กน้อย ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมแต่ตัวเบสของผลิตภัฑ์เองก็มีกลิ่นที่ใช้ง่ายไม่มีกลิ่นเหม็น เนื้อเซรั่มชุ่มฉ่ำสมกับที่เป็นเบสน้ำ ส่วนผสมให้ความชุ่มชื่นทำหน้าที่ของมันได้ดี

ประเด็นเรื่องการกระจายตัวบนผิวนี่ก็สำคัญนะ เพราะเอาจริง ๆ เราถามไปว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีน้ำแร่ VICHY 89% งั้นเราพ่นสเปรย์ของเขาไปเลยสิได้น้ำแร่ 100% เลย  เทียบปริมาณต่อราคาแล้วถูกกว่าด้วย แต่เขาให้คำตอบที่น่าสนใจว่าน้ำแร่เพียว ๆ นั้นมันมีแรงตึงผิวของมันอยู่ เมื่อสเปรย์ลงไปมันจะเกาะเป็นหยดบนผิว กระจายตัวไม่ดีมี มุมสัมผัสมาก (Contact Angle) แสดงถึงความเข้ากันกับผิว (Affinity) ที่ไม่สูงนัก ในทางกลับกันตัวผลิตภัณฑ์ M89 กระจายตัวบนผิวได้ดี มีมุมสัมผัสต่ำและแสดงให้เห็นความเข้ากันกับผิวที่ดีกว่าจึงมีประสิทธิภาพสูงกว่าในการดูดซึมนั่นเอง (และใช้งานง่ายกว่าด้วย)

ตัวผลิตภัณฑ์สามารถใช้เป็นเหมือน Pre-Serum ก่อนลงผลิตภัณฑ์บำรุงผิวตัวต่อไป หรือในรายที่ขี้เกียจมากหรือผิวมันมาก อาจจะใช้เป็นขั้นตอนของมอยซ์เจอไรเซอร์เนื้อเจลก็ยังได้ เนื้อสัมผัสผลิตภัณฑ์เมื่อใช้เดี่ยว ๆ นั้นออกมาดีมากทีเดียว สบายผิว  แต่เมื่อใช้ร่วมกับสกินแคร์ตัวอื่นอาจจะมีความหนึบเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากความเป็นเนื้อเจลของตัวเซรั่มเองที่ไม่ได้มีส่วนผสมเติมแต่งอย่างพวกซิลิโคนหรือพาวเดอร์ที่ทำให้เนื้อสัมผัสแห้งหรือนวลขึ้น แต่โดยรวมเรารู้สึกโอเคและไม่มีปัญหาเท่าไหร่กับปริมาณในการใช้แต่ละครั้งอยู่ที่ 2 ปั้มสำหรับทั่วใบหน้าและลำคอ

นี่เป็นผลิตภัณฑ์เรียบง่ายมาก ให้ผลตามที่เคลมไว้คือผิวชุ่มชื่นดูอิ่มเอิบขึ้น และด้วยความที่มันอ่อนโยนและเรียบง่ายนี่แหล่ะทำให้มันเหมือนอะไรที่เราหยิบจับมาใช้แบบไม่ต้องคิด  แบบพึ่งไปกดสิวมาไม่กล้าใช้สกินแคร์ที่ปกติใช้อยู่กลัวมันระคายหรือไม่เหมาะก็ปั้ม Mineral 89 ทาลงไปไม่ต้องคิดอะไรมาก ก็มันอ่อนโยน สบายผิว ชุ่มชื่น  ไม่รู้จะใช้อะไรหลังล้างหน้าก่อนจะออกไปออกกำลังกายเพราะกลัวจะอุดตันผิวหรอ? ก็กดปั้มปาดเข้าไปชุ่มชื่นสบายผิวไม่อุดตัน เหงื่อออกเยอะไหลก็ไม่ค่อยแสบตา เอามาทารอบดวงตาได้ ทาปากยังได้เลย กลายเป็นว่ามันเป็นผลิตภัณฑ์ที่เราหยิบมาเล่นอะไรแปลก ๆ และสนุกกับมันแถมยังได้ผลดีกว่าที่คิดซึ่งเราขอลองยกตัวอย่างที่เราลองเอามาประยุกต์ใช้และชอบดังนี้

Spa Water Pampering Mask : มีอยู่วันนึงเราทิ้งมาสก์ผลัดเซลล์ผิวไว้นานเกินไปหน่อยแล้วรู้สึกแสบหน้า แดง ๆ และนึกขึ้นได้ว่าน้ำแร่ VICHY จัดการปัญหาตรงนี้ได้ดี แต่เราเคยเอาน้ำแร่มาฉีดใส่แผ่นมาสก์เปล่าแปะหน้าแล้วรู้สึกว่ามันแห้งเร็วไปหน่อย เราก็เลยลองเอามาผสมดู ก็คือหาถ้วยตวง ฉีดน้ำแร่ VICHY จากกระป๋องลงในถ้วยตวงสัก 15 มิลลิลิตร แล้วก็ปั้ม Mineral 89 ลงไปสัก 7-10 ปั้มและคนให้เข้ากันเพื่อช่วยให้มันมีเนื้อสัมผัสและก็มีส่วนผสมอุ้มความชุ่มชื่น ทำให้มาสก์ยังคงชุ่มอยู่ได้นานขึ้น และมันทำให้สัมผัสของแผ่นมาสก์ละมุนกับผิวมากขึ้นกว่าการชุบแค่น้ำแร่เปล่า ๆ ด้วยล่ะ ถ้าใครมีพวก Booster ที่หยดผสมสามารถสาดใส่ได้ตามใจชอบเลย

Lip Plumping & Recovery Wrap :  สำหรับคนที่ปากแห้งเป็นแผ่นเยิน อยากให้ริมฝีปากชุ่มชื่นขึ้นเอาหนังหลุดลุ่ยบางส่วนออกไป หรืออยากให้ริมฝีปากดูอิ่มเอิบขึ้น ก็ให้ทา VICHY : Mineral 89 ที่ริมฝีปากแบบชุ่ม ๆ เลย แล้วก็เอาแผ่นฟิลม์ห่ออาหารตัดเป็นแผ่นใหญ่กว่ารูปปากเราหน่อยแล้วแปะทับเอาไว้สัก 5-10 นาที  ลอกแผ่นฟิลม์ออกนวด ๆ เนื้อเซรัมกับริมฝีปากเบา ๆ พวกเซลล์ผิวที่ตายแล้วน่าจะเริ่มเห็นเป็นขุยขาว  ๆ ให้เราเอาสำลีชุบน้ำลูบเอาขุยออกเบา ๆ หลังจากนั้นซับให้แห้ง จะเติม Mineral 89 ลงบนริมฝีปากบาง ๆ รอให้แห้งหมาด ๆ ก่อนปิดทับด้วยลิปบาล์มที่ใช้อยู่ เท่านี้ปากแห้งเยินก็กลับมาสวยขึ้นแล้ว

Conclusion

 

โดยสรุปแล้ว VICHY : Mineral 89 คือความพยายามในการสื่อสารรากเหง้า ต้นกำเนิด และจุดเด่นที่ไม่เหมือนใครของน้ำแร่ VICHY ออกมาในรูปแบบของผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่ใช้ได้กับทุกสภาพผิว ทุกเพศ ทุกวัย และพุ่งเป้าไปจัดการสิ่งที่ทุกคนต้องเจออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อย่าง Exposomes โดยการเสริมการป้องกันตัวเองของผิวให้แข็งแรงขึ้นและเติมความชุ่มชื่นให้ผิวอิ่มเอิบมีความยืดหยุ่นดูสดใส

สูตรของผลิตภัณฑ์เรียบง่ายจนอาจจะดูง่ายเกินไปนิดสำหรับสกินแคร์สายบ้าพลังอย่างเราที่แอบคาดหวังว่าเขาจะมี actives อื่น ๆ ที่สามารถเข้ากันกับส่วนผสมของน้ำแร่เข้มข้นได้อย่างไม่มีปัญหา แต่ในอีกมุมนึงความเรียบง่ายนี้ก็ทำให้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้อ่อนโยนมากจนถึงขั้นใช้กับรอบดวงตาและริมฝีปากได้ ประกอบกับคำเคลมที่ไม่ได้เกินจริงจากสิ่งที่คาดหวังได้จากการใช้ผลิตภัณฑ์เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง (ผิวชุ่มชื่นขึ้น อิ่มเอิบขึ้น เสริมการป้องกันตามธรรมชาติของผิวให้แข็งแรงขึ้น)

ก็โอเคนะ ไม่ได้มีอะไรหวือหวา แต่ใช้ได้เรื่อย ๆ คิดไม่ออกบอกไม่ถูกก็หยิบมาใช้ ลองเอามาผสมนั่นผสมนี่ รู้ตัวอีกทีก็หมดขวดไปแล้วแฮะ…

สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง

 ***Sponsored Item***

– VICHY : Mineral 89

VICHY : Mineral 89
*คะแนนดาวเรทติ้งจะแสดงผลไม่ถูกต้องหากเปิดอ่านบทความนี้จาก Smart Phones / Tablets*
FORMULA
GENTLENESS
SENSORY
RESULT
PUPE LOVE IT
PROS
  • เนื้อไม่หนักแต่ชุ่มชื่น ใช้กับสกินแคร์ที่มีได้ง่าย ใช้เป็นมอยซ์เจอไรเซอร์เนื้อเจลสำหรับคนที่ผิวมันมากได้เลย
  • ส่วนผสมเรียบง่ายและอ่อนโยนมากถึงมากที่สุด
  • น้ำแร่ VICHY มีแร่ธาตุเข้มข้นและช่วยเสริมการปกป้องตัวเองตามธรรมชาติของผิว
CONS
  • ไม่ใช่ข้อเสีย แต่ส่วนตัวรู้สึกว่าอยากได้สารบำรุงอื่น ๆ มาเพิ่มมากกว่านี้ถ้าเป็นไปได้
3.7Overall Score