หลายคนอาจจะแปลกใจว่าเอ๊ะทำไมแบรนด์ไทยลงรีวิวติด ๆ กัน บางคนคิดด้วยซ้ำว่าเราไม่ใช้ของไทยนะจ๊ะซึ่งไม่รู้เอาที่ไหนมาพูดเพราะเราใช้และมีแบรนด์ไทยติด Favorite เราด้วยซ้ำ สำหรับแบรนด์ Skin Will นั้นเรารู้จักมานานแล้วและเราเคยทำรีวิวบางตัวไปเมื่อนานหลายปีก่อน ตัวล่าสุดนี้เราคิดว่าน่าสนใจในหลายแง่โดยเฉพาะเรื่องของสารออกฤิทธิ์หลักรวมไปถึงการพยายามปรับภาพลักษณ์และบรรจุภัณฑ์ซึ่งเรามองว่าเป็นเรื่องที่ดี ส่วนจะมีรายละเอียดอย่างไรไปดูกัน

Product’s Formula

Skin Will ที่เป็นชื่อแบรนด์ จะพ้องตามมากับชื่อผลิตภัณฑ์ คือการบอกว่า ถ้าใช้ตัวนี้แล้ว “ผิวของคุณจะ” จุด ๆ ๆ อะไรก็ว่าไป เรามองว่าคอนเซปต์น่ารักดี( (แต่ไม่มีใครรู้เพราะเจ้าของแบรนด์ไม่พูด) สำหรับตัวนี้ SKIN WILL  : Brighten To Target Face Serum (30ml / 1,250 Baht) ก็คือเซรั่มไวท์เทนนิ่งที่จะชวยให้ผิวกระจ่างใสขึ้นนั่นเอง

ส่วนประกอบหลักของผลิตภัณฑ์ตัวนี้ไม่ซับซ้อนซึ่งเป็นเรื่องที่ดีในแง่ของความอ่อนโยนและลดความเสี่ยงในการแพ้หรือระคายเคืองลงไปได้ และสารไวท์เทนนิ่งก็ค่อนข้างน่าสนใจทีเดียว

Diglucosyl Gallic Acid หรือชื่อทางการค้าว่า Brightenyl  เรารู้จักกับส่วนผสมตัวนี้ตอนไปงาน In-Cosmetics Asia ตอนปลายปี 2015 ที่ผ่านมาและรู้สึกว่าเฮ้ยมันเจ๋งดีอ่ะ

Diglucosyl Gallic Acid  หรือ Trihydroxybenzoic Acid Glucoside (THBG) เป็นอนุพันธ์ของ Trihydroxybenzoic Acid (THBA) ซึ่งเป็นสารกลุ่ม Phenols ที่พบได้ในพืชธรรมชาติหลายชนิดและมีสรรพคุณหลายด้านไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ การศึกษาจากประเทศไต้หวันที่ตีพิมพ์ในปี 2013 พบว่า Trihydroxybenzoic Acid ยังมีคุณสมบัติในการขัดขวางกระกวนการผลิตเม็ดสีโดยไปลดการผลิตโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตเม็ดสีอย่าง Microphthalmia-Associated Transcription Factor (MITF) ภายในนิวเคลียสของเซลล์เมลาโนไซต์ ซึ่งส่งผลเป็นลูกต่อต่อการส่งสัญญาณในการผลิตเม็ดสีในกระบวนการขั้นต่อมา นอกจากนี้การผลิตเอนไซม์ Tyrosinase และ Tyrosinase-Related Protein-1 (TRP1) ซึ่งจำเป็นต่อการสังเคราะห์เมลานินก็ถูกขัดขวางอีกด้วย ทำให้สารตัวนี้เป็นส่วนผสมที่น่าสนใจในการเป็นไวท์เทนนิ่งแต่ก็มีข้อเสียเช่นเดียวกับสารกลุ่มฟีนอลและสารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ ในพืชคือมันไม่ค่อยเสถียรเท่าไหร่

(Source : Anti-inflammatory activity of gallic acid.Inhibition of Melanogenesis by Gallic Acid: Possible Involvement of the PI3K/Akt, MEK/ERK and Wnt/β-Catenin Signaling Pathways in B16F10 Cells)

บริษัทผู้ผลิต Brightenyl จึงทำอนุพันธ์ของสารตัวนี้ออกมาเป็น Trihydroxybenzoic Acid Glucoside (THBG) เพื่อทำให้สารตัวนี้เสถียรพอที่จะใช้ในเครื่องสำอางและจะถูกแบคทีเรียประจำถิ่นบนพื้นผิวของเราแตกตัวให้เป็น Trihydroxybenzoic Acid (THBA) ซึ่งหลักการแตกตัวอนุพันธ์ด้วยแบคทีเรีย ด้วยเอนไซม์ หรือสารอื่น ๆในผิวตามธรรมชาติไม่ใช่เรื่องแปลกในวงการเครื่องสำอาง แต่สิ่งที่เราคิดว่ามันเจ๋งดีคือไม่ว่าจะ Trihydroxybenzoic Acid Glucoside (THBG) แม้จะไม่ถูกแตกตัวไปเป็น Trihydroxybenzoic Acid (THBA) มันก็ทำงานได้และทำงานในกลไกที่ต่างกันและช่วยเสริมกันและกันในการลดเลือนจุดด่างดำ มันโคตรเก๋อ่ะ!!! เพราะเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าอนุพันธ์ที่เราทาลงไปมันไม่มีทางแตกตัวไปใช้ได้ 100% หรอก ดังนั้นการที่สารตัวนี้จะแตกตัวหรือไม่ต่างก็ถูกนำไปใช้ในผิวได้มันจึงเป็นอะไรที่แบบโคตรเลิศอ่ะ

 

Brightenyl Action

กลไกการทำงานคร่าว ๆ ของสารตัวนี้คือ เมื่อเราทา Trihydroxybenzoic Acid Glucoside (THBG) ลงไปแล้ว

1. ส่วนที่แตกตัวไปเป็น Trihydroxybenzoic Acid (THBA) มันจะไปช่วยจับอนุมูลอิสระ (ROS / Reactive Oxygen Species) ซึ่งเป็นตัวที่ทำให้เซลล์เกิดความเสียหายอันจะสามารถไปกระตุ้นการส่งสัญญาณให้เริ่มผลิตเม็ดสีได้ และยังเป็นอีกปัจจัยในการไป Oxidize ให้เกิดเป็น Melanin ได้

2. Trihydroxybenzoic Acid (THBA) ส่วนที่ไม่แตกตัวก็จะสามารถไปลดความเสียหายของ DNA ที่ถูกกระตุ้นจากรังสี UV ได้ ซึ่งก็ลดการส่งสัญญาณให้ผลิตเม็ดสีได้อีกเหมือนกัน

3. Trihydroxybenzoic Acid Glucoside (THBG) ยังไปลดการผลิตโปรตีน MITF ส่วน Trihydroxybenzoic Acid (THBA) จะไปลด Tyrosinase ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในกระบวนการสังเคราะห์เมลานินได้ (อันนี้คือสิ่งที่ผู้ผลิตเคลมมา แต่จากการอ่านงานวิจัยอื่นเราพบว่าตัว THBA เองก็ลด MITF ได้เหมือนกัน)

4. ส่วนของเมลานินที่ยังถูกผลิตออกมาได้จะถูกกีดกันไม่ให้ส่งผ่านเข้าเซลล์ผิวเพราะว่า Trihydroxybenzoic Acid Glucoside (THBG) จะไปบล็อคตัวรับสัญญาณของเซลล์ เมื่อเมลานินไม่ถูกส่งผ่านเข้าเซลล์มันจะถูกกำจัดไปด้วยกลไกตามธรรมชาติของผิว

5. Trihydroxybenzoic Acid Glucoside (THBG) ไปควบคุม NF-κB Pathway ซึ่งเป็น Proinflammatory Signaling Pathway ช่วยลดการอักเสบของเซลล์ผิว

6. Trihydroxybenzoic Acid Glucoside (THBG) ไปควบคุม Prostaglandin E2 (PGE2) ซึ่งเป็นหนึ่งกุญแจสำคัญในการทำให้ร่างกายเกิดการการขยายตัวของหลอดเลือด ตรงนี้จะไปลดช่วยการแดงของผิวลง

ทางบริษัทมีการตีพิมพ์ผลการศึกษาของส่วนผสมตัวนี้ลงในวารสาร Journal of Clinical, Cosmetic and Investigational Dermatology เอาไว้ซึ่งทุกคนสามารถอ่านได้ฟรีตามลิ้งค์ด้านล่างนี้จ้า

(Source : Trihydroxybenzoic acid glucoside as a global skin color modulator and photo-protectantProstaglandins and Inflammation)

Polyglutamic Acid เป็นส่วนผสมที่ผู้ผลิตเคลมว่าช่วยลดการระเหยของความชุ่มชื่น และไปกระตุ้นการสร้าง Natural Moisturizing Factor เพื่อเติมความชุ่มชื่นในผิว

Alpha-Arbutin เป็น Tyrosinase Inhibitor ที่รู้จักและใช้กันมาอย่างยาวนานในการเป็นไวท์เทนนิ่งเพื่อลดเลือนจุดด่างดำ เอาจริง ๆ ตัวนี้มันดูซ้ำกับ Brightenyl แต่ว่าถ้าไม่มีสารไวท์เทนนิ่งที่ อย. รู้จักเลย ตัวผลิตภัณฑ์จะเคลมหรือตั้ชื่อเป็นไวท์เทนนิ่งไมไ่ด้ ซึ่งก็ตลกดี

Tocopheryl Acetate วิตามินอีเพื่อช่วยต้านอนุมูลอิสระของ Lipid บนผิว ซึ่งมีก็ดีเนื่องจากสารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆในสูตรเป็นตัวที่ละลายในน้ำทั้งหมดเลย

Chamomilla Recutita (Matricaria) Flower Extract ดอกคาโมไมล์มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบและระคายเคืองให้ผิว เป็นส่วนผสมที่รู้จักกันดีและใช้กันทั่วไป

Gluconic acid และ Lactobionic acid เป็นสารกลุ่ม Polyhydroxy Acid หรือ PHA มักถูกนำมาใช้เป็นตัวเลือกแทน AHAs ในกรณีที่ต้อการความอ่อนโยนมากกว่าเพราะว่าโมเลกุลของ PHA มีขนาดใหญ่กว่าจึงแทรกลงผิวได้น้อยกว่าจึงมีโอกาสระคายเคืองผิวน้อยกว่า คุณสมบัติเสริมคือการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระได้ แต่การจะหวังผลในการผลัดเซลล์ผิวก็มักจะต้องใช้ในความเข้มข้นมากกว่า AHA ถ้าต้องการผลที่เท่ากัน ค่า pH ของเซรั่มตัวนี้อยู่ที่ประมาณ 4.5 ซึ่งก็ถือว่าชนขอบในการทำงานของสารกลุ่มผลัดเซลล์ผิว กับความเข้มข้นที่ไม่สูงเท่าไหร่ เราไม่หวังเรื่องการผลัดเซลล์ผิวแต่เสริมเรื่องความชุ่มชื่นและต้านอนุมูลอิสระได้

Allantoin ใส่มาเพื่อลดการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นได้

โดยรวมแล้วกลไกในการเป็นไวท์เทนนิ่งค่อนข้างที่จะครบ เว้นในส่วนของการผลัดเซลล์ผิวไปหน่อยละกัน ส่วนประกอบปราศจากส่วนผสมของสี น้ำหอม และสารก่อการระคายเคืองที่ต้องกังวล แต่โอกาสที่จะแพ้ไม่ได้แปลว่าไม่มีนะฮะ

 

ingredients : Water, Isopentyldiol, Glycerin, Diglucosyl Gallic Acid, Polyglutamic Acid, Methylpropanediol, Sodium Polyacrylate, Alpha-Arbutin, Tocopheryl Acetate, Propylene Glycol, Chamomilla Recutita (Matricaria) Flower Extract, Ethoxydiglycol, Polysorbate 20, Phenoxyethanol, Pentylene Glycol, Gluconic acid, Lactobionic acid, Allantoin, Disodium EDTA

Usage & Result

เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นเซรั่มสีขาวขุ่นจาง ๆ มีความข้นเล็กน้อย เมื่อเกลี่ยลงบนผิวความข้นจะลดลงและกระจายตัวคลุมผิวและเซ็ทตัวแบบไม่เหนอะหนะผิว เนื้อสัมผัสทำออกมาได้ค่อนข้างดีทีเดียว

จากการทดลองใช้คู่กับสกินแคร์ที่มีอยู่พบว่าถ้าทาผลิตภัณฑ์หลายขั้นตอนและใช้คู่กับกันแดดที่ไม่ต่อยเซ็ทตัวติดผิวดีเท่าไหร่มันจะชอบเป็นคราบที่ตรงขาแว่นตาได้ (กันแดด Garnier หรือ Kiehl’s หลอดขาวเจอปัญหานี้) แต่โดยรวมแล้วไม่มีปัญหาอื่น ๆ ในแง่ของผลเชิงคอสเมติคในการใช้ และปัญหาเป็นคราบในระหว่างวันก็แก้ไขได้เพียงปรับกันแดดที่เราใช้เท่านั้นเอง

 


พอดีกับตอนก่อนจะไปอเมริกาเรามีสิวอักเสบแบบฝังลึกขึ้นและต้องกดเอาหัวสิวและหนองออกก่อน พอแผลตกสะเก็ดและหลุดออกเราจึงเริ่มใช้เซรั่มตัวนี้ซึ่งก่อนใช้มีการถ่ายรูปเอาไว้เพื่อเปรียบเทียบก่อนและหลังการใช้ โดยตลอดระยะเวลาในการทดลองนั้นไม่มีการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นไวท์เทนนิ่งอื่น ๆ อยู่ด้วย จะมีในส่วนของการใช้ BHA เพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวซึ่งใช้เป็นประจำอยู่แล้ว

การถ่ายรูปเปรียบเทียบนั้นปูเป้พยายามคุมทุกอย่างให้เหมือนเดิมให้ได้มากที่สุดโดยการใช้ Manual Setting เหมือนเดิม (Custom WB / ISO 1600 / Shutter Speed 80 / 40mm / F2.8) ในสภาพแสดงเดิมและถ่ายในช่วงเวลากลางคืนที่ไม่มีแสงจากธรรชาติมารบกวนแสงในห้อง แต่องศาในการถ่ายรูปอาจทำให้ส่วนของการโฟกัสส่วนอื่นที่ไม่จุดที่ต้องการมีการเบลอไปบ้างนะฮะ

ผลการใช้หลังจากผ่านไป 19 วัน เราพบว่ารอยสิวอักเสบที่ปกติมักจะอยู่กับผิวค่อนข้างนานเป็นเดือนนั้นจางลงได้ค่อนข้างไวมากทีเดียว การแดงของผิวที่อักเสบจากสิวลดลงเรื่อย ๆ แบบรู้สึกได้และการเกิดเป็นรอยดำหลังการอักเสบน้อยกว่าที่คิดไว้มาก ส่วนจุดด่างดำที่เคยเกิดขึ้นมานานแล้วเราไม่รู้สึกถึงความแตกต่างในระยะเวลาที่ลองใช้ อาจจะต้องรอดูผลในระยะยาวกว่านี้

โทนผิวโดยรวมเรารู้สึกได้ว่ามันดูกระจ่างขึ้น ส่วนตัวเรามองว่าจากการที่ผิวเราแดงน้อยลง เพราะโทนแดงของผิวจากอิทธิพลของเส้นเลือดฝอยใต้ผิวส่งผลต่อโทนของผิวและความหมองคล้ำค่อนข้างชัดเจนนะ เราไม่ได้มีการแต่งรูป After เพื่อให้ผิวดูขาวหรือสว่างขึ้นแต่อย่างไร แต่ในทางกลับกันเรามีการปรับ exposure ของภาพ Before เพื่อให้มันเท่ากันกลับภาพ After (EV+0.3) เพื่อให้การเทียบผลดูยุติธรรมขึ้น จุดสังเกตคือบริเวณขี้แมงวันที่ด้านล่างของรูปมีความเข้มที่เท่ากัน

Conclusion

โดยสรุปแล้ว SKIN WILL  : Brighten To Target Face Serum เป็นไวท์เทนนิ่งที่น่าสนใจกับคนที่มีปัญหาเรื่องรอยสิวแดง-ดำ ผิวแดงง่าย ตัวนี้ให้ผลที่น่าประทับใจเลยล่ะ ส่วนผสมของสารไวท์เทนนิ่งใหม่มาก อาจจะมีข้อมูลสนับสนุนน้อยเราหน่อย แต่รูปการใช้ก่อน – หลัง ก็ทำให้เห็นว่ามันน่าสนใจมากที่จะลองหากตัวเลือกอื่นที่เคยใช้มายังให้ผลไม่เป็นที่พอใจ เนื้อสัมผัสดี และค่อนข้างอ่อนโยนกับผิว มาในราคากลาง ๆ ไม่สูงจนเกินไป

โดยรวมไม่ค่อยมีอะไรจะติ นอกจากการเป็นดรอปเปอร์กับเนื้อผลิตภัณฑ์ที่ค่อยข้างมีความข้นเล็กน้อย เวลาเราจะเอาดรอปเปอร์ใส่กลับขวดเราต้องเล็งกันนิดนึงไม่อย่างนั้นก็จะมีเนื้อผลิตภัณฑ์ไปเลอะที่ปากขวดและตรงเกลียวได้ง่าย ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ส่งผลอะไรมากกับการใช้งานแต่เราเป็นพวกโรคจิตที่ไม่ชอบให้ขวดมันดูเขรอะเวลาใช้

สำหรับใครที่สนใจแบรนด์ไทยเล็ก ๆ แต่มีความตั้งใจในการทำผลิตภัณฑ์ออกมาให้เราใช้ ก็แวะไปสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : SKIN WILL ได้เลยจ้า

สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง

***Sponsored Item***

– SKIN WILL : Brighten To Target Face Serum

SKIN WILL : Brighten To Target Face Serum
FORMULA
GENTLENESS
SENSORY
RESULT
PUPE LOVE IT
PROS
  • รอยสิวจางลงไวขึ้นและโทนผิวดูกระจ่าง สารไวท์เทนนิ่งใหม่ กลไกการลดเม็ดสีค่อนข้างครบ
  • เนื้อสัมผัสค่อนข้างเบาและเหมาะกับทุกสภาพผิว
  • ปราศจากส่วนผสมของสี น้ำหอม และสารระคายเคืองผิว
CONS
  • จากการทดลองใช้ มีปัญหาเรื่องเป็นคราบกันกันแดดที่ติดผิวไม่ค่อยแน่นเวลาใส่แว่น
4.4Overall Score