photo PhilosophyReview01.jpg
หลังจากที่ Coty ได้ทำการซื้อกิจการของแบรนด์ Philosophy เมื่อปี 2010 เคาน์เตอร์แบรนด์ philosophy ก็ถูกยกออกจากประเทศไทยหลังจากนั้นไม่นานเพราะว่าผู้นำเข้าเดิมหมดสัญญาแล้วนั่นเอง

จนมาถึงปี 2013 นี้ บริษัท LuxAsia (Siam) ซึ่งเป็นบริษัทที่ร่วมทุนกับ Coty ในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ความงามไปทั่วเอเชียก็ได้ทำการบุกตลาดแบรนด์ philosophy ในภูมิภาคนี้อีกครั้งหนึ่ง

 photo PhilosophyReview02.jpg
เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมามีการแถลงข่าวถึงการกลับมาอย่างอีกครั้งของ philosophy ในประเทศไทย โดยการกลับมาในครั้งนี้มีเซพไพรซ์หลายอย่างตั้งแต่ราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม รวมถึงการพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ สำหรับชาวเอเชียโดยเฉพาะ (แอบกระซิบว่าเขากำลังพัฒนากลุ่มไวท์เทนนิ่งเพื่อชาวเอเชียอยู่แหล่ะ) โดยเคาน์เตอร์ philosophy เคาน์เตอร์แรกจะกลับมาที่ Beauty Hall สาขา Siam Paragon โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 2 สิงหาคม 2556 นี้

philosophy ถือกำเนิดขึ้นในปี 1996 โดย Cristina Carlino ผู้คร่ำหวอดในวงการสกินแคร์สำหรับผู้เชี่ยวชาญและคลีนิคผิวหนัง ศัลยกรรมมากว่า 30 ปี ผู้ซึ่งต้องการนำเสนอแบรนด์เครื่องสำอางที่มีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีทันสมัยในช่องทางที่คนทั่วไปสามารถหามาใช้ได้ ปัจจุบัน philosophy เป็นแบรนด์สกินแคร์เต็มสูบที่นำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ครบทุกความตัองการของผิวไม่ว่าจะเป็นเรื่องความชุ่มชื้น ริ้วรอย สีผิวไม่สม่ำเสมอ ปัญหาสิว รวมถึงยังมีกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับผิวกายสีสันสวยงามหลากกลิ่นหอมให้เลือก รวมถึงน้ำหอมด้วย ราคาผลิตภัณฑ์อยู่ในระดับ Prestige ย่อม ๆ เริ่มต้นตั้งแต่ 690 บาทสำหรับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว และ 1,590 บาท สำหรับมอยซ์เจอไรเซอร์พื้นฐาน ไปจนถึงหลายพันในกลุ่ม Anti-Aging

 photo PhilosophyReview04.jpg
ผลิตภัณฑ์ที่จะนำมาพูดถึงในวันนี้ก็คือกลุ่มผลัดเซลล์ผิว อย่าง philosophy : the microdelivery in-home vitamin c peptide peel (60g + 60ml / 2,900 THB) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เด่นของแบรนด์นี้

ในชุด kit ประกอบไปด้วย Vitamin C/Peptide Crystal หนึ่งกระปุก และ Lactic/Salicylic Acid Activating Gel อีกหนึ่งขวด ซึ่งเป็นการผลัดเซลล์ผิวสองขั้นตอนภายใน 3 นาที

 photo PhilosophyReview05.jpg
ส่วนประกอบหลัก ๆ ใน Vitamin C/Peptide Crystal ก็ Sodium Bicarbonate หรือเบกกิ้งโซดา ซึ่งใช้เป็นเม็ดสครับในการผลัดเซลล์ผิวทางกายภาพ โดยวิธีการใช้ก็ต้องใช้บนผิวที่สะอาดและซับให้แห้งแล้ว เมื่อเกลี่ยสครับลงบนผิวจะรู้สึกอุ่นเล็กน้อยเพราะความชื้นที่เหลืออยู่บนผิวเข้าไปสัมผัสกับ PEG-6 ทำให้เกิดความร้อนขึ้น

การใช้ Vitamin C/Peptide Crystal ที่ถูกต้องคือให้ลูบออกจากกึ่งกลางใบหน้าอย่างเบามือเป็นเวลา 60 วินาที ห้ามขัดวน ๆ หรือกดแรงเพราะจะทำให้ผิวถลอกระคายเคืองได้ กลิ่นหอม ๆ มาจากน้ำมันสกัดจากผิวส้ม และสีเหลืองส้มสดใสมาจาก Beta-Carotene

มีส่วนผสมของวิตามินซีเสถียรในรูปของ MAP มาคู่กับวิตามินอี และวิตามินเอ พร้อมกับเปปไทด์มาจริง แต่เราคิดว่ามันใส่มาเป็นจุดขายมากกว่าจะเอาประโยชน์จริงจังเพราะว่าอยู่บนผิวหน้าเราไม่กี่นาทีก็ต้องล้างออกแล้ว (ยังไม่นับรวมว่าบรรจุภัณฑ์แบบกระปุกก็ไม่ค่อยเป็นมิตรกับสารแอนติออกซิแดนท์อีก)

Crystals Ingredients : PEG-6, Sodium Bicarbonate, Oleth-20, Glyceryl Stearate SE, Silica, Magnesium Ascorbyl Phosphate, Tocopheryl Acetate, Retinyl Palmitate, Ethylhexyl Palmitate, Citrus Aurantium Sulcis (Orange) Oil, Tribehenin, Sorbitan Isostearate, Palmitoyl Oligopeptide, Beta-Carotene, Isopropylparaben, Isobutylparaben, Butylparaben, Methylparaben, Propylparaben.

 photo PhilosophyReview06.jpg
ในส่วนของ Lactic/Salicylic Acid Activating Gel นั้นประกอบไปด้วยกรดสองชนิดนั่นก็คือ Lactic Acid และ Salicyclic Acid ซึ่งไม่บอกความเข้มข้น แต่วัดค่า pH แล้วอยู่ที่ 2.0-2.5 ซึ่งต่ำม๊ากกกก และมีโอกาสระคายเคืองได้มากหากใช้เดี่ยว ๆ แต่วิธีการใช้ที่แนะนำคือให้เอาเจลอันนี้ในปริมาณ 1 ช้อนชา ทาลงไปบนผิวบริเวณที่ทา Vitamin C/Peptide Crystal ไปในขั้นตอนแรก จะเกิดความอุ่นและฟองเกิดขึ้น

(วิทยาศาสตร์พื้นฐานเมื่อกรดใน Lactic/Salicylic Acid Activating Gel มาเจอกับความเป็นด่างของ Sodium Bicarbonate ใน Vitamin C/Peptide Crystal จะเกิดความร้อนขึ้น และเมื่อกรดมาเจอกับ Sodium Bicarbonate ก็จะเกิดการคายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นจนทำให้มีฟองนั่นเอง)

ความ pH ของกรดจะถูกปรับให้สูงขึ้นและหยุดการทำงานไปโดย Sodium Bicarbonate ดังนั้นค่า pH ที่ต่ำมากของเจลในสเต้ปที่สองจึงไม่น่าจะทำให้เกิดการระคายเคืองอะไรเท่าไหร่ แต่ผลของการผลัดเซลล์จากกรดสองชนิดก็จะถูกหยุดไว้ในระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้นเอง

ผลหลังใช้แน่นอนว่าผิวจะดูกระจ่างและรู้สึกนุ่มเรียบเนียนขึ้นในทันที ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ มันเป็นอะไรที่สามารถคาดหวังผลได้อยู่แล้ว ใครที่ชอบการสครับผิวและมีงบพอที่จะลงทุนก็สามารถพิจารณาไว้เป็นตัวเลือกได้

ส่วนเรื่องของการระคายเคือง ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน รวมถึงแรงที่ใช้ในการลูบคริสตัลในสเต็ปแรกด้วย ผิวที่ระคายเคืองง่ายมากหรือไม่แข็งแรงคงไม่เหมาะกับผลิตภัณฑ์ตัวนี้เท่าไหร่นัก

Gel Ingredients : Water (Aqua), Lactic Acid, Hydroxyethylcellulose, Linoleamidopropyl PG-Dimonium Chloride Phosphate, Salicyclic Acid, Polyquaternium-10, Propylene Glycol, Dizolidinyl Urea, Methylparaben, Propylparaben.

 photo PhilosophyReview07.jpg
อีกตัวหนึ่งที่ปเป้คิดว่าน่าสนใจ และใช้งานได้ง่ายกว่า และมั่นใจว่าอ่อนโยนกว่าแน่ ๆ ก็คือ philosophy : the microdelivery daily exfoliating wash (120ml / 690 THB , 240ml / 1,200 THB) ซึ่งเป็นเจลล้างหน้าผสมสครับที่สามารถใช้ได้เป็นประจำทุกวัน

สารทำความสะอาดอยู่ในรูป Sodium Cocoyl Apple Amino Acids ซึ่งมีความอ่อนโยนดี โดยมี Diatomaceous Earth หรือหินฟอซซิลบดละเอียดยิบเป็นเม็ดสครับ มีส่วนผสมของวิตามินและน้ำมันสกัดจากพืชมาด้วยซึ่งก็ไม่มีประโยชน์ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเท่าไหร่ (มันอยู่บนหน้าเราแปปเดียวจริง ๆ) ที่น่าดีใจคือผลิตภัณฑ์ตัวนี้ปราศจากส่วนผสมของน้ำหอมและสี

เนื้อเจลข้น ๆ มีความขุ่นเพราะเม็ดสครับที่ใส่มาในปริมาณที่พอดี เม็ดสครับละเอียดไม่บาดผิว (แต่ก็ไม่ควรขัดแรง) เนื้อเจลสามารถก่อฟองได้น้อยมาก แต่ก็ล้างออกได้ง่าย ไม่ทิ้งคราบลื่นและไม่ทำให้ผิวรู้สึกแห้งตึง ส่วนตัวคิดว่าเป็นเจลล้างหนย้าผสมสัครที่น่าสนใจอีกหนึ่งตัวสำหรับเกือบทุกสภาพผิว (ผิว Sensitive ไม่ค่อยแนะนำให้ขัดผิวเท่าไหร่)

Ingredients : Aqua/Water/Eau, Sodium Cocoyl Apple Amino Acids, Solum Diatomeae/Diatomaceous Earth/Terre De Diatomees, Acrylates/Steareth-20 Methacrylate Crosspolymer, Glycerin, Decyl Glucoside, Lauryl Glucoside, Disodium Cocoamphodiacetate, Borago Officinalis Seed Oil, Helianthus Annuus (Sunflower) Seed Oil, Tocopherol, Tocotrienols, Oryza Sativa (Rice) Bran Oil, Panthenol, Lithium Magnesium Sodium Silicate, Sodium Chloride, Sodium Glycolate, Propylene Glycol, Magnesium Chloride, Sodium Benzoate, Magnesium Nitrate, Tetrasodium EDTA, Sodium Hydroxide, Citric Acid, Methylchloroisothiazolinone, Methylisothiazolinone.

 photo PhilosophyReview03.jpg
โดยภาพรวมแล้ว การกลับมาของ philosophy ในครั้งนี้มีการพัฒนาทั้งในด้านของราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น รวมถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์สูตรใหม่เพิ่มเติมที่เหมาะกับสภาพผิวและสภาพอากาศในเอเชีย

philosophy : the microdelivery in-home vitamin c peptide peel เป็นผลิตภัรฑ์ที่สนุกและให้คามรู้สึกที่ดีในการใช้ มีกลิ่นที่ผอม และทำให้ผิวรู้สึกนุ่มและเนียนขึ้นทันทีหลังใช้ แต่มีราคาค่อนข้างสูงและน่าเสียดายส่วนผสมของเปปไทด์กับวิตามินซีนั้นถูกล้างลงท่อไปมากกว่าจะทาทิ้งเอาไว้บนผิวของเรา

philosophy : the microdelivery daily exfoliating wash เป็นเจลล้างหน้าผสมสครับที่อ่อนโยนและเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับเกือบทุกสภาพผิว

สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง

ข้อดี

– daily exfoliating wash มีความอ่อนโยน ใช้แล้วผิวไม่แห้งตึง เม็ดสครับไม่บาดผิว
– in-home vitamin c peptide peel ทำให้ผิวรู้สึกเนียนและนุ่มขึ้นในทันทีหลังใช้ ให้ประสบการณ์ในการใช้ที่ดี

ข้อเสีย

– in-home vitamin c peptide peel มีราคาสูง และใช้บรรจุภัณฑ์แบบกระปุก

***Sponsored Item***

– philosophy : the microdelivery in-home vitamin c peptide peel
– philosophy : the microdelivery daily exfoliating wash